จากกรณีนายอนันต์ จารุพรรณกิจ หรือเสี่ยชัย อายุ 64 ปี อดีตพ่อค้าขายของที่ระลึก เกิดความเครียดหลังจากหาเงินไม่พอค่าใช้จ่ายส่งเสียลูกชาย-หญิงวัยเรียน แถมยังต้องดูแลแม่ และน้องสาวที่ป่วยทางจิต อับจนหนทางวางแผนกรอกยาพิษให้สมาชิกในครอบครัว ก่อนผูกคอตัวเองตายยกครัวรวม 5 ศพ ภายในบ้านพักซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ ซอยอินทรพิทักษ์ 1 แยก 2 ถนนอินทรพิทักษ์ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 3 ม.ค. นางอุไรวรรณ เสริมศักดิ์ อายุ 50 ปี ภรรยาของนายอนันต์ ได้นิมนต์พระ 1 รูป มาทำพิธีเชิญวิญญาณผู้เสียชีวิตในบ้าน 5 ศพ ไปยังวัดหลักสี่ แขวงตลาดบางเขน เขตดอนเมือง กรุงเทพ หลังจากเมื่อวานนี้ (2 ม.ค.) ได้รับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ไปไว้ที่วัดดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายหรือนำไปบริจาคให้ใครแต่อย่างใด แต่ทางเจ้าของบ้านได้ฝากให้เพื่อนบ้านดูแล ไม่ให้ใครเข้าไปวุ่นวายในบ้านหลังดังกล่าวอย่างเด็ดขาด
ขณะที่นายดาวเรือง ภูมิบุตร อายุ 55 ปี เพื่อนบ้าน ระบุว่า หลังเกิดเหตุมีชาวบ้านมาดูบ้านที่เกิดเหตุกันมาก บางคนก็มาบอกให้ไปสู่สุขคติ เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนนอนอยู่ ก็ต้องตกใจตื่น เพราะได้ยินเสียงเด็กวัยรุ่นอายุ 16-25 ปี ขี่รถจยย.มาเป็นกลุ่มแก๊งประมาณ 5-7 คน พากันมาด้อม ๆ มอง ๆ ที่หน้าบ้านดังกล่าว บางคนตะโกนเข้าไปในบ้านว่า "ขอดูหน้า 5 ศพหน่อย" บ้างก็ตะโกนว่า "ออกมาซิ ออกมาซิ" ก่อนจะเดินไปเขย่าประตูรั้วหน้าบ้านอย่างรุนแรง เหมือนกำลังท้าทายกับสิ่งลี้ลับ ตนเห็น แต่ไม่กล้าเข้าไปห้าม เพราะเกรงจะเกิดอันตราย เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นมากันหลายคน ตนเพียงมองผ่านหน้าต่างลงมาเท่านั้น ทั้งนี้ขณะเขย่าประตูท้าทายอยู่นั้น จู่ ๆ ได้ยินเสียงเหมือนคนสาดน้ำลงมากจากชั้น 2 ลงมาที่ประตู ทำเอาทุกคนถึงกับหยุดมองหน้ากันไป-มา ก่อนที่วัยรุ่นคนหนึ่งตะโกนออกมาว่า "ใครสาดน้ำว่ะ" แต่ไม่มีเสียงตอบจากภายในบ้าน เมื่อกลุ่มวัยรุ่นเห็นท่าไม่ดี จึงพากันวิ่งหนีไปขึ้นจยย.อย่างไม่คิดชีวิต ด้วยความแปลกใจ ตนเลยลงไปดู กลับไม่พบร่องรอยน้ำแต่อย่างใด คาดว่าคงถูกสิ่งลี้ลับเล่นงานเป็นแน่ อย่างไรก็ตาม ตนอาศัยอยู่บ้านใกล้กับจุดเกิดเหตุ ไม่เคยเห็นสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านอีกราย ระบุว่า "วันเกิดเหตุได้ยินเสียงเหมือนกับที่นายดาวเรืองเล่าให้ฟังเหมือนกัน แต่เชื่อว่าชาวบ้านใกล้ ๆ อาจทำของหนักหล่นเสียงดังก็เป็นได้ อาจไม่ใช่เรื่องลี้ลับแต่อย่างใด ไอ้พวกกลุ่มเด็กวัยรุ่น น่าจะกลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่อาศัยมากันเยอะ เลยทำเป็นห้าว ท้าลองของกับสิ่งลี้ลับ ได้ยินเสียงอะไรหน่อย สุดท้ายนึกว่าผีหลอก วิ่งหน้าตั้ง แต่ก็ดีไปอย่าง จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายแถวนี้อีก"
ด้าน พ.ต.ท.เทพวิสิทธิ์ โพธิเก่งฤทธิ์ รอง ผกก.ป. สน.บางยี่เรือ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายงานเรื่องดังกล่าว แต่หากมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาก่อกวนจริง ก็จะให้สายตรวจประสานไปยังเพื่อนบ้านใกล้เคียงให้แจ้งเบาะแสทันที ทั้งนี้ขอฝากเตือนไปยังกลุ่มผู้ที่อยากลองของ หรืออยากท้าทายสิ่งลี้ลับ ว่าห้ามเข้าไปก่อความเดือดร้อนรำคาญเป็นอันขาด แม้เจ้าหน้าที่จะไม่ได้ติดป้ายห้ามเข้า หรือล้อมเชือกห้ามเข้าก็ตาม แต่การบุกรุก และก่อความเดือดร้อนคำคาญเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายมีอาญาลงโทษ
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 3 ม.ค. นางอุไรวรรณ เสริมศักดิ์ อายุ 50 ปี ภรรยาของนายอนันต์ ได้นิมนต์พระ 1 รูป มาทำพิธีเชิญวิญญาณผู้เสียชีวิตในบ้าน 5 ศพ ไปยังวัดหลักสี่ แขวงตลาดบางเขน เขตดอนเมือง กรุงเทพ หลังจากเมื่อวานนี้ (2 ม.ค.) ได้รับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ไปไว้ที่วัดดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายหรือนำไปบริจาคให้ใครแต่อย่างใด แต่ทางเจ้าของบ้านได้ฝากให้เพื่อนบ้านดูแล ไม่ให้ใครเข้าไปวุ่นวายในบ้านหลังดังกล่าวอย่างเด็ดขาด
ขณะที่นายดาวเรือง ภูมิบุตร อายุ 55 ปี เพื่อนบ้าน ระบุว่า หลังเกิดเหตุมีชาวบ้านมาดูบ้านที่เกิดเหตุกันมาก บางคนก็มาบอกให้ไปสู่สุขคติ เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนนอนอยู่ ก็ต้องตกใจตื่น เพราะได้ยินเสียงเด็กวัยรุ่นอายุ 16-25 ปี ขี่รถจยย.มาเป็นกลุ่มแก๊งประมาณ 5-7 คน พากันมาด้อม ๆ มอง ๆ ที่หน้าบ้านดังกล่าว บางคนตะโกนเข้าไปในบ้านว่า "ขอดูหน้า 5 ศพหน่อย" บ้างก็ตะโกนว่า "ออกมาซิ ออกมาซิ" ก่อนจะเดินไปเขย่าประตูรั้วหน้าบ้านอย่างรุนแรง เหมือนกำลังท้าทายกับสิ่งลี้ลับ ตนเห็น แต่ไม่กล้าเข้าไปห้าม เพราะเกรงจะเกิดอันตราย เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นมากันหลายคน ตนเพียงมองผ่านหน้าต่างลงมาเท่านั้น ทั้งนี้ขณะเขย่าประตูท้าทายอยู่นั้น จู่ ๆ ได้ยินเสียงเหมือนคนสาดน้ำลงมากจากชั้น 2 ลงมาที่ประตู ทำเอาทุกคนถึงกับหยุดมองหน้ากันไป-มา ก่อนที่วัยรุ่นคนหนึ่งตะโกนออกมาว่า "ใครสาดน้ำว่ะ" แต่ไม่มีเสียงตอบจากภายในบ้าน เมื่อกลุ่มวัยรุ่นเห็นท่าไม่ดี จึงพากันวิ่งหนีไปขึ้นจยย.อย่างไม่คิดชีวิต ด้วยความแปลกใจ ตนเลยลงไปดู กลับไม่พบร่องรอยน้ำแต่อย่างใด คาดว่าคงถูกสิ่งลี้ลับเล่นงานเป็นแน่ อย่างไรก็ตาม ตนอาศัยอยู่บ้านใกล้กับจุดเกิดเหตุ ไม่เคยเห็นสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านอีกราย ระบุว่า "วันเกิดเหตุได้ยินเสียงเหมือนกับที่นายดาวเรืองเล่าให้ฟังเหมือนกัน แต่เชื่อว่าชาวบ้านใกล้ ๆ อาจทำของหนักหล่นเสียงดังก็เป็นได้ อาจไม่ใช่เรื่องลี้ลับแต่อย่างใด ไอ้พวกกลุ่มเด็กวัยรุ่น น่าจะกลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่อาศัยมากันเยอะ เลยทำเป็นห้าว ท้าลองของกับสิ่งลี้ลับ ได้ยินเสียงอะไรหน่อย สุดท้ายนึกว่าผีหลอก วิ่งหน้าตั้ง แต่ก็ดีไปอย่าง จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายแถวนี้อีก"
ด้าน พ.ต.ท.เทพวิสิทธิ์ โพธิเก่งฤทธิ์ รอง ผกก.ป. สน.บางยี่เรือ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายงานเรื่องดังกล่าว แต่หากมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาก่อกวนจริง ก็จะให้สายตรวจประสานไปยังเพื่อนบ้านใกล้เคียงให้แจ้งเบาะแสทันที ทั้งนี้ขอฝากเตือนไปยังกลุ่มผู้ที่อยากลองของ หรืออยากท้าทายสิ่งลี้ลับ ว่าห้ามเข้าไปก่อความเดือดร้อนรำคาญเป็นอันขาด แม้เจ้าหน้าที่จะไม่ได้ติดป้ายห้ามเข้า หรือล้อมเชือกห้ามเข้าก็ตาม แต่การบุกรุก และก่อความเดือดร้อนคำคาญเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายมีอาญาลงโทษ