ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(26ธ.ค.) ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกรอบ ด้วยนักลงทุนยังคงอิ่มอกอิ่มใจกับตัวเลขประมาณการณ์จีดีพีไตรมาส 3 ของอเมริกาที่เผยแพร่ออกมาเมื่อช่วงกลางสัปดาห์
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 23.50 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,053.71 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.89 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,088.77 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลทั้ง 2 ดัชนี แนสแดค เพิ่มขึ้น 33.39 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,806.86 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ส่วนดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเมื่อคืนนี้ ซึ่งนับเป็นระดับปิดสูงสุดครั้งที่ 52 ของปี
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางหลังปิดทำการในวันคริสต์มาส เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากยังไม่กลับเข้าตลาด
ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งทำให้ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวเหนือระดับ 18,000 จุดติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ตั้งแต่วันอังคาร ภายหลังสหรัฐเปิดเผยว่าจีดีพีไตรมาส 3/2557 ขยายตัว 5% ซึ่งเป็นการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 3.9% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ระดับ 4.6% นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.3% เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ
ส่วนในวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 20 ธ.ค. ปรับตัวลดลง 9,000 ราย แตะที่ 280,000 ราย นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลงอย่างหนัก นำโดยหุ้นกิเลียดซึ่งปรับตัวลง 14% เนื่องจากบริษัท Express Script ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดการด้านการออกใบสั่งยารายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศว่าจะไม่ยอมให้ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีใช้ยารักษาโรคดังกล่าวของกิเลียด
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 23.50 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,053.71 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.89 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,088.77 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลทั้ง 2 ดัชนี แนสแดค เพิ่มขึ้น 33.39 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,806.86 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ส่วนดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเมื่อคืนนี้ ซึ่งนับเป็นระดับปิดสูงสุดครั้งที่ 52 ของปี
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางหลังปิดทำการในวันคริสต์มาส เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากยังไม่กลับเข้าตลาด
ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งทำให้ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวเหนือระดับ 18,000 จุดติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ตั้งแต่วันอังคาร ภายหลังสหรัฐเปิดเผยว่าจีดีพีไตรมาส 3/2557 ขยายตัว 5% ซึ่งเป็นการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 3.9% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ระดับ 4.6% นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.3% เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ
ส่วนในวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 20 ธ.ค. ปรับตัวลดลง 9,000 ราย แตะที่ 280,000 ราย นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลงอย่างหนัก นำโดยหุ้นกิเลียดซึ่งปรับตัวลง 14% เนื่องจากบริษัท Express Script ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดการด้านการออกใบสั่งยารายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศว่าจะไม่ยอมให้ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีใช้ยารักษาโรคดังกล่าวของกิเลียด
