สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอ กล่าวว่า ทางองค์กรจะยื่นข้อเสนอในต้นปีหน้าให้ชายรักร่วมเพศสามารถบริจาคเลือดได้ หลังจากผ่านการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงไม่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการบริจาคเลือดภายในประเทศ แต่จะช่วยเพิ่มปริมาณเลือดในคลังให้มากขึ้นหลายแสนไพน์ต่อปี
ทั้งนี้ การรับบริจาคเลือดในกลุ่มชายรักร่วมเพศถูกห้ามมาตั้งแต่ปี 2526 หลังพบเชื้อ HIV แฝงอยู่ในเลือด ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ เอดส์ (AIDS)
ทั้งนี้ การรับบริจาคเลือดในกลุ่มชายรักร่วมเพศถูกห้ามมาตั้งแต่ปี 2526 หลังพบเชื้อ HIV แฝงอยู่ในเลือด ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ เอดส์ (AIDS)