นายกฤษฎา อุทยานิน ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะเสนอแผนการปรับปรุงการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 58 ครั้งที่ 1 ให้ ครม. พิจารณาในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ หลังจากผ่านความเห็นชอบคณะกรรมการกำกับนโยบายการบริหารหนี้สาธารณะ ที่มีนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เป็นประธานแล้ว โดยสาระสำคัญ คือ การปรับโครงสร้างหนี้ของเงินที่ใช้ในโครงการรับจำนำเพิ่มขึ้นประมาณ 200,000 แสนล้านบาท ซึ่งมีทั้งการต่ออายุเงินกู้ออกไปและบางส่วนมีการใช้หนี้ให้เร็วขึ้น
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าว ส่วนหนึ่งจะมีการแปลงหนี้เงินกู้เป็นพันธบัตรออมทรัพย์ 50,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่กระทรวงการคลังออกเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน 100,000 ล้านบาท โดยอีก 50,000 ล้านบาท เป็นการออกพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 58 โดยนายสมหมายจะแถลงขายเป็นทางการในวันที่ 5 ม.ค.58
ทั้งนี้ ปัจจุบันหนี้ที่ใช้ในโครงการจำนำข้าวมีอยู่ประมาณ 667,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้ที่คลังค้ำประกันให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 467,000 ล้านบาท และสภาพคล่องของ ธ.ก.ส. อีก 200,000 ล้านบาท โดยมีต้นทุนเงินกู้อยู่ที่ประมาณ 3% ต่อปี ที่ผ่านมาจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ไปแล้วกว่า 20,000 ล้านบาท
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าว ส่วนหนึ่งจะมีการแปลงหนี้เงินกู้เป็นพันธบัตรออมทรัพย์ 50,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่กระทรวงการคลังออกเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน 100,000 ล้านบาท โดยอีก 50,000 ล้านบาท เป็นการออกพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 58 โดยนายสมหมายจะแถลงขายเป็นทางการในวันที่ 5 ม.ค.58
ทั้งนี้ ปัจจุบันหนี้ที่ใช้ในโครงการจำนำข้าวมีอยู่ประมาณ 667,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้ที่คลังค้ำประกันให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 467,000 ล้านบาท และสภาพคล่องของ ธ.ก.ส. อีก 200,000 ล้านบาท โดยมีต้นทุนเงินกู้อยู่ที่ประมาณ 3% ต่อปี ที่ผ่านมาจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ไปแล้วกว่า 20,000 ล้านบาท