เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ว่า ศาลทหารกรุงเทพ ได้อนุมัติออกหมายจับ นายชากานต์ ภาคภูมิ และ นายณัฐพล สุวะดี (อัครพงศ์ปรีชา) 2 ผู้ต้องหาในเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ซึ่งถูกจับกุมไปแล้วเพิ่มเติม ในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีการแอบอ้างสถาบัน เพื่อผลประโยชน์ทางการศึกษาใน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า
โดยนิด้าได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชากานต์ และ นายณัฐพล ที่ สน.ลาดพร้าว เนื่องจาก นายณัฐพล ทำหนังสือแจ้งไปยังสถาบันอ้างเป็นพระอนุชาเพื่อให้สถาบันไม่ดำเนินการตามระเบียบต่อ นายชากานต์ จากกรณีขาดเรียนในชั้นเรียนปริญญาโทเกินกำหนด ทำให้มีเวลาเรียนไม่เพียงพอ โดย นายณัฐพล อ้างว่า นายชากานต์ ไปปฏิบัติภารกิจกับเกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูง
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน เป็นคนละกรณีกับข้อหาเดิม ซึ่งจะดำเนินการอายัดตัวเพิ่มเติมต่อไป เนื่องจากผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ ขณะที่กระบวนการสอบสวนในคดีดังกล่าว กับผู้ต้องหารายอื่นๆ เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องส่งเรื่องมาให้คณะกรรมการคดีหมิ่นฯของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณา ทั้งนี้ในส่วนของสำนวนคดีหลักทั้งหมดมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน จากนั้นจะส่งต่อให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พิจารณากลั่นกรองอีกครั้งก่อนส่งให้อัยการต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากมีอาจารย์จากนิด้าได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมว่า นายชากานต์ และ นายณัฐพล ผู้ต้องหาในคดีอุ้มรีดทรัพย์พื้นที่ สน.วัดพระยาไกร และ สน.พระโขนง ได้เข้าศึกษาปริญญาโทที่คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า แต่เวลาเรียนไม่ครบ โดยแอบอ้างว่าต้องขาดเรียนเนื่องจากไปทำภารกิจติดตามบุคคลสำคัญตั้งแต่เดือนมิถุนายน จึงไม่สามารถเข้าเรียนวิชา รอ.6005 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ ซึ่งศาลทหารกรุงเทพได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 2552/2557 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2557 ในข้อหาแอบอ้างสถาบัน มาตรา 112
โดยนิด้าได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชากานต์ และ นายณัฐพล ที่ สน.ลาดพร้าว เนื่องจาก นายณัฐพล ทำหนังสือแจ้งไปยังสถาบันอ้างเป็นพระอนุชาเพื่อให้สถาบันไม่ดำเนินการตามระเบียบต่อ นายชากานต์ จากกรณีขาดเรียนในชั้นเรียนปริญญาโทเกินกำหนด ทำให้มีเวลาเรียนไม่เพียงพอ โดย นายณัฐพล อ้างว่า นายชากานต์ ไปปฏิบัติภารกิจกับเกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูง
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน เป็นคนละกรณีกับข้อหาเดิม ซึ่งจะดำเนินการอายัดตัวเพิ่มเติมต่อไป เนื่องจากผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ ขณะที่กระบวนการสอบสวนในคดีดังกล่าว กับผู้ต้องหารายอื่นๆ เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องส่งเรื่องมาให้คณะกรรมการคดีหมิ่นฯของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณา ทั้งนี้ในส่วนของสำนวนคดีหลักทั้งหมดมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน จากนั้นจะส่งต่อให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พิจารณากลั่นกรองอีกครั้งก่อนส่งให้อัยการต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากมีอาจารย์จากนิด้าได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมว่า นายชากานต์ และ นายณัฐพล ผู้ต้องหาในคดีอุ้มรีดทรัพย์พื้นที่ สน.วัดพระยาไกร และ สน.พระโขนง ได้เข้าศึกษาปริญญาโทที่คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า แต่เวลาเรียนไม่ครบ โดยแอบอ้างว่าต้องขาดเรียนเนื่องจากไปทำภารกิจติดตามบุคคลสำคัญตั้งแต่เดือนมิถุนายน จึงไม่สามารถเข้าเรียนวิชา รอ.6005 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ ซึ่งศาลทหารกรุงเทพได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 2552/2557 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2557 ในข้อหาแอบอ้างสถาบัน มาตรา 112
