นายธีรพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ ผู้บริหารรถแท็กซี่อูเบอร์ 3 ราย ที่ให้บริการในประเทศไทย ประกอบด้วย อูเบอร์แท็กซี่ อีซีแท็กซี่ และแกรบ แท็กซี่ จะเข้าพบเพื่อชี้แจงรายละเอียดของลักษณะการทำธุรกิจของแต่ละบริษัทให้กรมการขนส่งทางบกทราบ ซึ่งที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้แจ้งให้ทั้ง 3 บริษัทเข้ามาเจรจาเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับการให้บริการแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่น ที่ปัจจุบันยังเป็นบริการที่ไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งกรมฯ พร้อมรับฟังข้อเสนอต่างๆ ที่ทั้ง 3 บริษัทจะนำเสนอเพื่อเป็นทางออกของเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม จุดยืนของกรมการขนส่งทางบก ชัดเจนว่า ในการเจรจาจะต้องให้ทั้ง 3 บริษัทยุติการกระทำใดๆ ที่เป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นจุดยืนที่ไม่สามารถอะลุ่มอล่วยได้ โดยที่ผ่านมากรมฯ ได้ชี้แจงหลายครั้งว่าการให้บริการในลักษณะของอูเบอร์แท็กซี่นี้เป็นการใช้รถผิดประเภท และไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ขับรถมีใบขับขี่รถสาธารณะหรือไม่ รวมทั้งอัตราค่าโดยสารที่จัดเก็บก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นไปตามประกาศที่กรมการขนส่งทางบกประกาศนำมาใช้หรือไม่
นอกจากนี้ ที่สำคัญที่สุดกรมการขนส่งทางบกจำเป็นต้องรักษาระบบรถสาธารณะในประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการแท็กซี่จำนวนมากที่ขึ้นทะเบียนโดยถูกต้องและวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารอยู่ในปัจจุบัน โดยการหาทางออกของปัญหาอูเบอร์แท็กซี่ จะต้องไม่ไปกระทบกับผู้ประกอบการเหล่านี้ ซึ่งจะก่อปัญหาในเชิงโครงสร้างและกลายเป็นปัญหาในระยะยาวต่อไป
ส่วนกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ถึงปัญหาอูเบอร์แท็กซี่ในหลายประเทศ เช่น ในประเทศอินเดีย ที่ผู้ขับรถไปก่อคดีทางเพศกับผู้โดยสาร ก็เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าปัญหาอูเบอร์แท็กซี่เป็นบริการที่เข้าไปตรวจสอบและควบคุมความปลอดภัยได้ยาก โดยจนถึงปัจจุบันนี้การที่อูเบอร์แท็กซี่ นำรถส่วนบุคคลมาวิ่งให้บริการ ก็ทำให้ไม่ทราบจำนวนของรถที่แน่นอนที่มีอยู่ในระบบขณะนี้
อย่างไรก็ตาม จุดยืนของกรมการขนส่งทางบก ชัดเจนว่า ในการเจรจาจะต้องให้ทั้ง 3 บริษัทยุติการกระทำใดๆ ที่เป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นจุดยืนที่ไม่สามารถอะลุ่มอล่วยได้ โดยที่ผ่านมากรมฯ ได้ชี้แจงหลายครั้งว่าการให้บริการในลักษณะของอูเบอร์แท็กซี่นี้เป็นการใช้รถผิดประเภท และไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ขับรถมีใบขับขี่รถสาธารณะหรือไม่ รวมทั้งอัตราค่าโดยสารที่จัดเก็บก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นไปตามประกาศที่กรมการขนส่งทางบกประกาศนำมาใช้หรือไม่
นอกจากนี้ ที่สำคัญที่สุดกรมการขนส่งทางบกจำเป็นต้องรักษาระบบรถสาธารณะในประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการแท็กซี่จำนวนมากที่ขึ้นทะเบียนโดยถูกต้องและวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารอยู่ในปัจจุบัน โดยการหาทางออกของปัญหาอูเบอร์แท็กซี่ จะต้องไม่ไปกระทบกับผู้ประกอบการเหล่านี้ ซึ่งจะก่อปัญหาในเชิงโครงสร้างและกลายเป็นปัญหาในระยะยาวต่อไป
ส่วนกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ถึงปัญหาอูเบอร์แท็กซี่ในหลายประเทศ เช่น ในประเทศอินเดีย ที่ผู้ขับรถไปก่อคดีทางเพศกับผู้โดยสาร ก็เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าปัญหาอูเบอร์แท็กซี่เป็นบริการที่เข้าไปตรวจสอบและควบคุมความปลอดภัยได้ยาก โดยจนถึงปัจจุบันนี้การที่อูเบอร์แท็กซี่ นำรถส่วนบุคคลมาวิ่งให้บริการ ก็ทำให้ไม่ทราบจำนวนของรถที่แน่นอนที่มีอยู่ในระบบขณะนี้