นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบการจำหน่ายสินค้ากระเช้าของขวัญและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ห้างเซ็นทรัล สาขารัตนาธิเบศร์ ว่า จากการปรับขึ้นราคาแก๊สหุงต้มภาครัวเรือน (แอลพีจี) อีกกิโลกรัมละ 1.03 บาท หรือจากกิโลกรัมละ 23.13 บาท เป็น 24.16 บาท กรมฯ ได้วิเคราะห์ผลกระทบที่มีต่อต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จ พบว่า จะทำให้ต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จและก๋วยเตี๋ยวเพิ่มขึ้นจานละ 30 สตางค์ ดังนั้น ร้านค้าไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างในการปรับราคาอาหารจานละ 5-10 บาท ซึ่งเบื้องต้นได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาอาหารอย่างเข้มงวด หากพบว่าร้านค้าใดปรับขึ้นราคาแบบไม่มีเหตุผลก็จะเชิญมาชี้แจงต้นทุน
สำหรับผลกระทบของการปรับขึ้นราคาแอลพีจีและเอ็นจีวีต่อภาคการขนส่งพบว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการขนส่งมาก เพราะรถบรรทุกส่วนใหญ่มีการใช้น้ำมันดีเซล จึงไม่สามารถนำข้ออ้างในการปรับขึ้นราคาสินค้าในภาพรวมได้ ขณะเดียวกันผลพวงจากการปรับลดราคาน้ำมันดีเซล โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ลิตรละ 28.39 บาท ทำให้ต้นทุนในการขนส่งลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่งกรมฯ ขอให้ผู้ประกอบการที่ได้รับอานิสงส์จากน้ำมันดีเซลที่ลดลงช่วยปรับลดราคาสินค้าในส่วนนี้ลงด้วย
นายบุณยฤทธิ์ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ราคาสินค้าว่า จะยังคงทรงตัวและไม่มีการปรับขึ้นราคา แม้จะพ้นช่วงตรึงราคาสินค้าไปแล้ว เพราะไม่มีแรงกดดันทางด้านวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยคาดว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคายาวไปถึงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2558
สำหรับผลกระทบของการปรับขึ้นราคาแอลพีจีและเอ็นจีวีต่อภาคการขนส่งพบว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการขนส่งมาก เพราะรถบรรทุกส่วนใหญ่มีการใช้น้ำมันดีเซล จึงไม่สามารถนำข้ออ้างในการปรับขึ้นราคาสินค้าในภาพรวมได้ ขณะเดียวกันผลพวงจากการปรับลดราคาน้ำมันดีเซล โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ลิตรละ 28.39 บาท ทำให้ต้นทุนในการขนส่งลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่งกรมฯ ขอให้ผู้ประกอบการที่ได้รับอานิสงส์จากน้ำมันดีเซลที่ลดลงช่วยปรับลดราคาสินค้าในส่วนนี้ลงด้วย
นายบุณยฤทธิ์ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ราคาสินค้าว่า จะยังคงทรงตัวและไม่มีการปรับขึ้นราคา แม้จะพ้นช่วงตรึงราคาสินค้าไปแล้ว เพราะไม่มีแรงกดดันทางด้านวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยคาดว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคายาวไปถึงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2558