จากกรณีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่มไทร ก่อเหตุทะเลาะวิวาทและยิงนายอดิทรัพย์ พิริยะกรกุล อายุ 23 ปี นายเจตนัย อิสระเดช และนายสมนึก แพเวียน ซึ่งทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าหมู่บ้านโฮมเพลส ซอยรามคำแหง 140 แขวงและเขตสะพานสูง โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. ได้เรียกคณะกรรมและผู้ที่เกี่ยวข้องของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่มไทร และสยามร่วมใจ เข้าประชุมหารือ ที่ห้องปฏิบัติการ บก.น. 4 เพื่อหามาตรการป้องกันการแย่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แก้ปัญหาความขัดแย้งและปรับความเข้าใจกันโดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่มีการประชุมอยู่นั้น ด้านนอกห้องประชุม ได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุน เมื่อกลุ่มเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งประมาณ 5คน วิ่งไล่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มไทร พร้อมตะโกนว่า “จับตัวมันไว้มันปาก้อนหินใส่พวกผม” ก่อนเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มไทรจะวิ่งหนีเข้าห้องไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาตั้งแนวสกัดกั้นหน้าประตูไว้เพราะมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจำนวนมากวิ่งมาหวังจะพังประตูห้องเข้าไป ต่อมาผู้ใหญ่ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของตนกลับไป
ด้านพล.ต.ต.ฉันทวิทย์กล่าวว่า ปกติการทำงานของเจ้าหน้าที่มูลนิธิ จะมีการแบ่งเขตแบ่งวันกันชัดเจน อย่างกรณีของป่อเต็กตึ๊งและร่วมกตัญญูจะแบ่งเขตรับผิดชอบชัดเจน และทำงานสลับเขตรับผิดชอบกันฝ่ายละ1 วันแต่ในพื้นที่ของ บก.น.4 จะมีมูลนิธิปฏิบัติหน้าที่ถึง 4 มูลนิธิได้แก่ ป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกตัญญู ร่มไทร และสยามร่วมใจ ซึ่งไม่มีการแบ่งเขตรับผิดชอบ เบื้องต้นเมื่อมูลนิธิใดก็ตามที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในท้องที่บก.น.4 จะต้องแจ้งจุดที่ประจำการ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่รับผิดชอบทุกครั้ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิทุกคนต้องแต่งเครื่องแบบและแขวนบัตรประจำตัวให้เรียบร้อยแล้วหลังจากนี้ทั้ง 3 มูลนิธิ จะต้องส่งประวัติให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ
ในส่วนมาตรการป้องกันเหตุซ้ำรอย บก.น.4 จะประชุมกันต่อไป ในส่วนของ 3 มูลนิธิในพื้นที่ บก.น.4 ทางศูนย์เอราวัณจะเรียกประชุมเรื่องการแบ่งเขตต่อไป ส่วนด้านคดีความได้สั่งการให้ทางผู้ใหญ่ของมูลนิธิร่มไทร ส่งรูปถ่ายหน้าตรงของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์คืนเกิดเหตุเพื่อให้ทางมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งชี้ตัวและคาดว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายได้ภายในวันนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่มีการประชุมอยู่นั้น ด้านนอกห้องประชุม ได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุน เมื่อกลุ่มเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งประมาณ 5คน วิ่งไล่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มไทร พร้อมตะโกนว่า “จับตัวมันไว้มันปาก้อนหินใส่พวกผม” ก่อนเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มไทรจะวิ่งหนีเข้าห้องไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาตั้งแนวสกัดกั้นหน้าประตูไว้เพราะมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจำนวนมากวิ่งมาหวังจะพังประตูห้องเข้าไป ต่อมาผู้ใหญ่ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของตนกลับไป
ด้านพล.ต.ต.ฉันทวิทย์กล่าวว่า ปกติการทำงานของเจ้าหน้าที่มูลนิธิ จะมีการแบ่งเขตแบ่งวันกันชัดเจน อย่างกรณีของป่อเต็กตึ๊งและร่วมกตัญญูจะแบ่งเขตรับผิดชอบชัดเจน และทำงานสลับเขตรับผิดชอบกันฝ่ายละ1 วันแต่ในพื้นที่ของ บก.น.4 จะมีมูลนิธิปฏิบัติหน้าที่ถึง 4 มูลนิธิได้แก่ ป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกตัญญู ร่มไทร และสยามร่วมใจ ซึ่งไม่มีการแบ่งเขตรับผิดชอบ เบื้องต้นเมื่อมูลนิธิใดก็ตามที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในท้องที่บก.น.4 จะต้องแจ้งจุดที่ประจำการ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่รับผิดชอบทุกครั้ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิทุกคนต้องแต่งเครื่องแบบและแขวนบัตรประจำตัวให้เรียบร้อยแล้วหลังจากนี้ทั้ง 3 มูลนิธิ จะต้องส่งประวัติให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ
ในส่วนมาตรการป้องกันเหตุซ้ำรอย บก.น.4 จะประชุมกันต่อไป ในส่วนของ 3 มูลนิธิในพื้นที่ บก.น.4 ทางศูนย์เอราวัณจะเรียกประชุมเรื่องการแบ่งเขตต่อไป ส่วนด้านคดีความได้สั่งการให้ทางผู้ใหญ่ของมูลนิธิร่มไทร ส่งรูปถ่ายหน้าตรงของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์คืนเกิดเหตุเพื่อให้ทางมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งชี้ตัวและคาดว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายได้ภายในวันนี้