ผู้ว่าการรัฐมิสซูรีของสหรัฐฯ สั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชาติเป็น 3 เท่าเพื่อควบคุมสถานการณ์ทั้งภายและรอบเมืองเฟอร์กูสัน เพื่อยุติเหตุรุนแรง หลังประชาชนจำนวนมากชุมนุมประท้วงกรณีคณะลูกขุนไม่ยื่นฟ้องนายตำรวจผิวขาวที่ยิงวัยรุ่นผิวสีเสียชีวิต
นายเจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี แถลงวานนี้ว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชาติ 2,200 นาย ไปยังเขตเซนต์หลุยส์เคาน์ตี ในเมืองเฟอร์กูสัน วานนี้ เพิ่มขึ้นจากจำนวนเดิม 700 นาย เมื่อคืนวันจันทร์ เพื่อช่วยในการปกป้องบ้านเรือนและธุรกิจต่างๆ และให้ความปลอดภัยแก่ประชาชน
ทั้งนี้ เหตุประท้วงถึงขั้นมีการปล้นสะดมร้านค้าและจุดไฟเผาอาคาร มีขึ้นหลังจากคณะลูกขุนตัดสินใจไม่ฟ้องร้องนายดาเรน วิลสัน ตำรวจเมืองเฟอร์กูสัน หลังก่อเหตุยิงนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีวัย 18 ปี จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม โดยอัยการกล่าวว่า คณะลูกขุนได้ตรวจสอบหลักฐานถี่ถ้วนแล้ว และคำให้การของพยานบางคนที่ว่านายบราวน์ชูมือขึ้นแสดงการยอมแพ้ แต่ตำรวจก็ยังยิงเขานั้น ขัดกับผลการตรวจร่างกายนายบราวน์
นายเจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี แถลงวานนี้ว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชาติ 2,200 นาย ไปยังเขตเซนต์หลุยส์เคาน์ตี ในเมืองเฟอร์กูสัน วานนี้ เพิ่มขึ้นจากจำนวนเดิม 700 นาย เมื่อคืนวันจันทร์ เพื่อช่วยในการปกป้องบ้านเรือนและธุรกิจต่างๆ และให้ความปลอดภัยแก่ประชาชน
ทั้งนี้ เหตุประท้วงถึงขั้นมีการปล้นสะดมร้านค้าและจุดไฟเผาอาคาร มีขึ้นหลังจากคณะลูกขุนตัดสินใจไม่ฟ้องร้องนายดาเรน วิลสัน ตำรวจเมืองเฟอร์กูสัน หลังก่อเหตุยิงนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีวัย 18 ปี จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม โดยอัยการกล่าวว่า คณะลูกขุนได้ตรวจสอบหลักฐานถี่ถ้วนแล้ว และคำให้การของพยานบางคนที่ว่านายบราวน์ชูมือขึ้นแสดงการยอมแพ้ แต่ตำรวจก็ยังยิงเขานั้น ขัดกับผลการตรวจร่างกายนายบราวน์