สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐฯอ้างกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานได้ลดลงใน 34 รัฐของอเมริกาช่วงเดือนตุลาคม นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการจ้างงานในปีนี้ได้ทรงตัวเกือบทั่วประเทศ และมีเพียง 5 รัฐที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าน้อยมากนับตั้งแต่เดือนเมษายน แต่อีก 11 รัฐไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอกระตุ้นให้หลายบริษัทจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยรวมแล้วเมื่อเดือนตุลาคม การจ้างงานเพิ่มขึ้น 214,000 อัตรา นับเป็นเดือนที่ 9ติดต่อกันที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินระดับ 200,000 อัตราและถือเป็นช่วงระยะเวลาที่ยาวนานสุดตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งอัตราการว่างงานของสหรัฐอยู่ที่ร้อยละ 5.8 นับว่าต่ำสุดในรอบ6ปี
ขณะที่รัฐจอร์เจียมีอัตราการว่างงานสูงสุดในเดือนตุลาคม อยู่ที่ร้อยละ 7.7 ลดลงจากเดือนกันยายนที่ร้อยละ7.9 ส่วนรัฐนอร์ทดาโกตา มีอัตราการว่างงานต่ำสุดอย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ 2.8 และรัฐที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่ม 41,500 อัตรา รองลงมาเป็นรัฐเทกซัสเพิ่ม35,200 อัตราและรัฐฟลอริดา เพิ่ม 34,400อัตรา อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเมื่อไม่มานานนี้ระบุว่า การจ้างงานทั่วสหรัฐฯ จะยังคงมีแนวโน้มที่ดีในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอกระตุ้นให้หลายบริษัทจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยรวมแล้วเมื่อเดือนตุลาคม การจ้างงานเพิ่มขึ้น 214,000 อัตรา นับเป็นเดือนที่ 9ติดต่อกันที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินระดับ 200,000 อัตราและถือเป็นช่วงระยะเวลาที่ยาวนานสุดตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งอัตราการว่างงานของสหรัฐอยู่ที่ร้อยละ 5.8 นับว่าต่ำสุดในรอบ6ปี
ขณะที่รัฐจอร์เจียมีอัตราการว่างงานสูงสุดในเดือนตุลาคม อยู่ที่ร้อยละ 7.7 ลดลงจากเดือนกันยายนที่ร้อยละ7.9 ส่วนรัฐนอร์ทดาโกตา มีอัตราการว่างงานต่ำสุดอย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ 2.8 และรัฐที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่ม 41,500 อัตรา รองลงมาเป็นรัฐเทกซัสเพิ่ม35,200 อัตราและรัฐฟลอริดา เพิ่ม 34,400อัตรา อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเมื่อไม่มานานนี้ระบุว่า การจ้างงานทั่วสหรัฐฯ จะยังคงมีแนวโน้มที่ดีในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า