พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงรูปแบบการแบ่งรัฐธรรมนูญออกเป็นภาคต่างๆ เพื่อจัดลำดับความสำคัญ และความยากง่ายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อีกทั้งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะเป็นการร่างโดยไม่ลงลึกในรายละเอียดทุกเรื่อง ไม่ควรร่างให้ยาวจนเกิดการตีความมากไป แต่จะลงรายละเอียดไว้ที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นๆ ซึ่งคณะกรรมาธิการได้ตั้งอนุกรรมาธิการที่จะร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกไว้ล่วงหน้าแล้ว
พล.อ.เลิศรัตน์ ยืนยันว่า รูปแบบการแบ่งรัฐธรรมนูญนั้นไม่ได้เป็นไปเพื่อรองรับการยกเลิกรัฐธรรมนูญ หากมีการรัฐประหารขึ้นมาอีก แต่เป็นไปตามความสำคัญและความยากง่ายในการแก้ไข พร้อมยืนยันว่า การแบ่งดุลอำนาจหลักยังคง 3 ฝ่าย ตามเดิม คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ แต่จะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบองค์กรภาคประชาชน และแนวทางการปฏิรูปและปรองดองสมานฉันท์ ส่วนองค์กรอิสระยังไม่ถือเป็นดุลอำนาจฝ่ายที่ 4 แต่องค์กรอิสระนั้น จะมีอำนาจหน้าที่ในขอบเขตที่เหมาะสม
พล.อ.เลิศรัตน์ ยืนยันว่า รูปแบบการแบ่งรัฐธรรมนูญนั้นไม่ได้เป็นไปเพื่อรองรับการยกเลิกรัฐธรรมนูญ หากมีการรัฐประหารขึ้นมาอีก แต่เป็นไปตามความสำคัญและความยากง่ายในการแก้ไข พร้อมยืนยันว่า การแบ่งดุลอำนาจหลักยังคง 3 ฝ่าย ตามเดิม คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ แต่จะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบองค์กรภาคประชาชน และแนวทางการปฏิรูปและปรองดองสมานฉันท์ ส่วนองค์กรอิสระยังไม่ถือเป็นดุลอำนาจฝ่ายที่ 4 แต่องค์กรอิสระนั้น จะมีอำนาจหน้าที่ในขอบเขตที่เหมาะสม
