นายสันติ ชุดินธรา รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (15 พ.ย.) ททท.ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ หรือเวิร์กช็อป ภายใต้หัวข้อ "บทบาทหน้าที่ร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน...สู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย" โดยระดมหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันทำความเข้าใจ เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาการท่องเที่ยวต่อไป หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ และยังประกาศให้ปี 58 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยววิถีไทย
สำหรับการเวิร์กช็อปครั้งนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่ 1 เรื่องบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการดำเนินงานของ ททท.ที่ควรดำเนินต่อเนื่องและควรปรับปรุง ซึ่งคาดหวังว่าจะทำให้เห็นภาพรวมของสถานการณ์ว่าปัจจุบันยังมีประเด็นงานใดที่หน่วยงานต่างๆ ทำงานซ้ำซ้อน หรือมีงานด้านใดที่ยังไม่มีเจ้าภาพรับผิดชอบ เพื่อนำไปสู่ความชัดเจนว่าบทบาทและหน้าที่ของทุกหน่วยงานต่อไปนี้จะเป็น อย่างไร รวมถึงสามารถบูรณาการการทำงานร่วมกันได้มากขึ้
ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นเรื่องของการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและสุขอนามัย เพื่อหาข้อสรุปในการยกระดับความปลอดภัยในสถานที่ให้บริการท่องเที่ยวและ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งจะกำหนดความสำคัญเร่งด่วนในการจัดการ และวางกรอบระยะเวลาทำงานเพื่อให้เห็นผลชัดเจน โดยมีเจ้าภาพรับผิดชอบที่ชัดเจน
ขณะที่กลุ่มสุดท้าย คือ เรื่องความยั่งยืนของการท่องเที่ยวในอนาคตด้วยวิถีไทย เพื่อให้ทุกหน่วยงานเห็นภาพสอดคล้องในทิศทางเดียวกัน ว่า ต่อไปการท่องเที่ยวไทยจะขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนด้วยการใช้ความเป็นไทยร่วมกันทั้งหมด ดังนั้น จึงต้องมีการประสานร่วมกัน และอยู่ในกรอบเดียวกันตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ โดยเฉพาะแนวทางการดำเนินงานและความจำเป็นในการปฏิบัติงานร่วมกันในอนาคตที่ ควรเห็นแนวทางชัดเจนมากขึ้น เพื่อเป้าหมายสร้างความยั่งยืนที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ หลังจากหาบทสรุปในแต่ะกลุ่มเรียบร้อย จะมีการรายงานในที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง ซึ่งจุดมุ่งหมายจากการเวิร์กช็อปครั้งแรกนี้ มุ่งหวังทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกันก่อน เนื่องจากเวลาในการประชุมที่มีจำกัด จากนั้นจะนำบทสรุปมาวิเคราะห์และประเมินผลอีกครั้งว่ามีการตอบรับอย่างไร เพื่อกำหนดว่าต้องมีการทำเวิร์กช็อปร่วมกันอีกครั้งหรือไม่ เพราะยอมรับว่าในการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของท่องเที่ยว ยังต้องมีประเด็นที่หารือมากกว่าประเด็นนำร่อง 3 เรื่อง ที่เตรียมหยิบยกมาหารือกันในครั้งนี้อีก
สำหรับการเวิร์กช็อปครั้งนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่ 1 เรื่องบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการดำเนินงานของ ททท.ที่ควรดำเนินต่อเนื่องและควรปรับปรุง ซึ่งคาดหวังว่าจะทำให้เห็นภาพรวมของสถานการณ์ว่าปัจจุบันยังมีประเด็นงานใดที่หน่วยงานต่างๆ ทำงานซ้ำซ้อน หรือมีงานด้านใดที่ยังไม่มีเจ้าภาพรับผิดชอบ เพื่อนำไปสู่ความชัดเจนว่าบทบาทและหน้าที่ของทุกหน่วยงานต่อไปนี้จะเป็น อย่างไร รวมถึงสามารถบูรณาการการทำงานร่วมกันได้มากขึ้
ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นเรื่องของการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและสุขอนามัย เพื่อหาข้อสรุปในการยกระดับความปลอดภัยในสถานที่ให้บริการท่องเที่ยวและ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งจะกำหนดความสำคัญเร่งด่วนในการจัดการ และวางกรอบระยะเวลาทำงานเพื่อให้เห็นผลชัดเจน โดยมีเจ้าภาพรับผิดชอบที่ชัดเจน
ขณะที่กลุ่มสุดท้าย คือ เรื่องความยั่งยืนของการท่องเที่ยวในอนาคตด้วยวิถีไทย เพื่อให้ทุกหน่วยงานเห็นภาพสอดคล้องในทิศทางเดียวกัน ว่า ต่อไปการท่องเที่ยวไทยจะขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนด้วยการใช้ความเป็นไทยร่วมกันทั้งหมด ดังนั้น จึงต้องมีการประสานร่วมกัน และอยู่ในกรอบเดียวกันตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ โดยเฉพาะแนวทางการดำเนินงานและความจำเป็นในการปฏิบัติงานร่วมกันในอนาคตที่ ควรเห็นแนวทางชัดเจนมากขึ้น เพื่อเป้าหมายสร้างความยั่งยืนที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ หลังจากหาบทสรุปในแต่ะกลุ่มเรียบร้อย จะมีการรายงานในที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง ซึ่งจุดมุ่งหมายจากการเวิร์กช็อปครั้งแรกนี้ มุ่งหวังทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกันก่อน เนื่องจากเวลาในการประชุมที่มีจำกัด จากนั้นจะนำบทสรุปมาวิเคราะห์และประเมินผลอีกครั้งว่ามีการตอบรับอย่างไร เพื่อกำหนดว่าต้องมีการทำเวิร์กช็อปร่วมกันอีกครั้งหรือไม่ เพราะยอมรับว่าในการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของท่องเที่ยว ยังต้องมีประเด็นที่หารือมากกว่าประเด็นนำร่อง 3 เรื่อง ที่เตรียมหยิบยกมาหารือกันในครั้งนี้อีก