กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกเพิ่ม ฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 13 -16 พฤศจิกายน จึงประสานผู้ว่าราชการ 10 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม รวมถึงคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย พร้อมตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง กรณีสถานการณ์รุนแรง ได้เน้นย้ำให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด
ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยของ 10 จังหวัดดังกล่าว โดยเฉพาะที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ที่ลาดเชิงเขา จุดอ่อนน้ำท่วมขัง และริมชายฝั่งทะเล ให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติจะได้อพยพหนีภัยทันท่วงที ส่วนชาวเรือ ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยของ 10 จังหวัดดังกล่าว โดยเฉพาะที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ที่ลาดเชิงเขา จุดอ่อนน้ำท่วมขัง และริมชายฝั่งทะเล ให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติจะได้อพยพหนีภัยทันท่วงที ส่วนชาวเรือ ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้