เหล่าผู้ประท้วงที่โกรธแค้นต่อเหตุสังหารหมู่นักศึกษาเม็กซิโก 43 คนที่หายตัวไปตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ปิดกั้นทางเข้าสนามบินอคาปุลโกในวันจันทร์(10พ.ย.) ในการประท้วงล่าสุดต่อคดีที่จุดชนวนความเดือดดาลไปทั่วประเทศ หลังสมาชิกแก๊งค้ายาเสพติดเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือและตำรวจนอกรีตมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ประชาชนหลายพันคนเดินขบวนไปยังท่าอากาศยานนานาชาติของเมืองตากอากาศริมชายฝั่งแปซิฟิก โดยมีผู้ปกครองของเหล่านักศึกษาเป็นแกนนำเช่นเดียวกับเพื่อนๆของเหล่านักศึกษา 43 คนจากวิทยาลัยครูในรัฐเกร์เรโร ทางภาคใต้ของประเทศ
"ห้ามใครเข้าออกจนกว่าจะมีคำสั่งเพิ่มเติม" นักศึกษาสวมหน้ากากคนหนึ่งกล่าว หลังจากร่วมกับเพื่อนๆอีก 7 คนที่ใช้ท่อนไม้เป็นอาวุธ ปิดกั้นทางเข้าสนามบิน ขณะที่เฟลิเป เดอ ลา ครูซ โฆษกครอบครัวของนักศึกษา 43 คน บอกว่าพวกเขาจะปิดทางเข้าสนามบินนานาชาติเป็นเวลา 3 ชั่วโมง
ก่อนถึงสนามบิน กลุ่มผู้ประท้วงหน้ากากได้ปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่พยายามสกัดพวกเขาเอาไว้ ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ 11 คนได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามต่อมาจึงมีการเจรจา และตำรวจก็อนุญาตให้ผู้ชุมนุมผ่านเข้าไปได้ ส่งผลให้เหล่านักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าแบกสัมภาระเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร เพื่อเข้าไปยังสนามบิน
การประท้วงครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์(8พ.ย.) มีประชาชนหลายพันคนเดินขบวนในกรุงเม็กซิโกซิตี และผู้ชุมนุมบางส่วนราว 20 คนก่อเหตุจุดไฟเผาประตูของพระราชวังแห่งชาติ สถานที่ที่ประธานาธิบดีเอนริเก เปนญา เนียโต ใช้สำหรับประกอบพิธีการอย่างเป็นทางการต่างๆ
เหตุความวุ่นวายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากในวันศุกร์(7พ.ย.) เจ้าหน้าที่แถลงว่าสมาชิกแก๊งค้ายาเสพติดเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือสังหารหมู่นักศึกษา 43 คน หลังตำรวจฉ้อฉลนำตัวมาส่งให้ฆ่า จากนั้นก็นำร่างไปเผาและนำเศษซากศพใส่ถุงดำโยนลงแม่น้ำเพื่อทำลายหลักฐาน
ประชาชนหลายพันคนเดินขบวนไปยังท่าอากาศยานนานาชาติของเมืองตากอากาศริมชายฝั่งแปซิฟิก โดยมีผู้ปกครองของเหล่านักศึกษาเป็นแกนนำเช่นเดียวกับเพื่อนๆของเหล่านักศึกษา 43 คนจากวิทยาลัยครูในรัฐเกร์เรโร ทางภาคใต้ของประเทศ
"ห้ามใครเข้าออกจนกว่าจะมีคำสั่งเพิ่มเติม" นักศึกษาสวมหน้ากากคนหนึ่งกล่าว หลังจากร่วมกับเพื่อนๆอีก 7 คนที่ใช้ท่อนไม้เป็นอาวุธ ปิดกั้นทางเข้าสนามบิน ขณะที่เฟลิเป เดอ ลา ครูซ โฆษกครอบครัวของนักศึกษา 43 คน บอกว่าพวกเขาจะปิดทางเข้าสนามบินนานาชาติเป็นเวลา 3 ชั่วโมง
ก่อนถึงสนามบิน กลุ่มผู้ประท้วงหน้ากากได้ปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่พยายามสกัดพวกเขาเอาไว้ ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ 11 คนได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามต่อมาจึงมีการเจรจา และตำรวจก็อนุญาตให้ผู้ชุมนุมผ่านเข้าไปได้ ส่งผลให้เหล่านักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าแบกสัมภาระเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร เพื่อเข้าไปยังสนามบิน
การประท้วงครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์(8พ.ย.) มีประชาชนหลายพันคนเดินขบวนในกรุงเม็กซิโกซิตี และผู้ชุมนุมบางส่วนราว 20 คนก่อเหตุจุดไฟเผาประตูของพระราชวังแห่งชาติ สถานที่ที่ประธานาธิบดีเอนริเก เปนญา เนียโต ใช้สำหรับประกอบพิธีการอย่างเป็นทางการต่างๆ
เหตุความวุ่นวายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากในวันศุกร์(7พ.ย.) เจ้าหน้าที่แถลงว่าสมาชิกแก๊งค้ายาเสพติดเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือสังหารหมู่นักศึกษา 43 คน หลังตำรวจฉ้อฉลนำตัวมาส่งให้ฆ่า จากนั้นก็นำร่างไปเผาและนำเศษซากศพใส่ถุงดำโยนลงแม่น้ำเพื่อทำลายหลักฐาน