วันนี้ (10 พ.ย.) ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) โดยนายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมมีมติออกคำสั่งห้ามขาย และห้ามให้บริการบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า และตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า สินค้าดังกล่าวมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภคมากกว่าบุหรี่ปกติหลายเท่า จึงไม่สามารถอนุญาตให้จำหน่ายได้
ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนมีโทษเช่นเดียวกับการจำหน่ายสินค้าอันตราย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 3 พ.ศ.2556 คือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า จะมีโทษเป็น 2 เท่า อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ภายหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 15 วัน
ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนมีโทษเช่นเดียวกับการจำหน่ายสินค้าอันตราย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 3 พ.ศ.2556 คือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า จะมีโทษเป็น 2 เท่า อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ภายหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 15 วัน
