เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้เรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติลาว ชื่อ"โชคพรชัย 0120 "บรรทุกน้ำมันเบนซิน 91 จำนวน 46,000 ลิตร ที่จอดอยู่ในแม่น้ำโขงที่ท่าเทียบเรือห้าเชียงโดยเปลวเพลิงได้ลุกลามไปที่เรืออีกลำหนึ่งที่ผูกติดกันชื่อมณีพร 049 ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันเช่นเดียวกัน
ขณะที่เพลิงลุกไหม้มีกลุ่มควันลอยดำสูง และมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ ซึ่งเหตุดังกล่าวทำให้ลูกเรือได้รับบาดเจ็บ2รายจากการถูกไฟลวกโดยทั้งสองคนได้กระโดดลงแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลเชียงแสนแล้ว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และ นรข.ได้นำเรือออกตีน้ำสกัดไม่ให้เรือลำดังกล่าวเข้าหาฝั่งได้ และประกาศให้เรือที่จอดอยู่ริมตลิ่งเคลื่อนย้ายออกจากฝั่งเร่งด่วน เพราะเกรงว่าเรือที่เกิดเพลิงไหม้ จะเข้าชนแล้วเกิดการลุกไหม้เรือลำอื่นได้อีก เรือที่เพลิงไหม้ได้ไหลมาตามน้ำโขงเป็นระยะกว่า2กิโลเมตรตำรวจน้ำ และชุด นรข. ได้ใช้เรือขับวนและใช้คลื่นน้ำไปกระแทกเรือจนไปจอดติดเกาะบริเวณด้านหลังจุดตรวจ ตชด.327 ที่ กม.5 และเรือได้เกิดเพลิงลุกไหม้จนจมลงที่สุดโดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
รอง สว.ตร.น้ำเชียงแสน ซึ่งกำลังปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานศุลกากรเชียงแสน ตม.เชียงแสน นรข.เขตเชียงราย ทำการตรวจสอบเอกสารการส่งออกน้ำมันไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเรือทั้งสองลำได้ทำการขนถ่ายน้ำมันจากรถใส่ในเรือเรียบร้อยโดยเรือโชคพรชัย 0120 บรรทุกน้ำมันเบนซินจำนวน 46,000 ลิตร เรือมณีพร 049 บรรทุกน้ำมันดีเซลจำนวน 42,000 ลิตร จู่ๆ ได้เกิดประกายไฟขึ้นบริเวณถังเก็บน้ำมันและไฟได้ลุกวาบขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ เป็นคนสัญชาติลาว บาดเจ็บสาหัส 1 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย กู้ภัยได้นำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงแสนไปแล้ว ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
ขณะที่เพลิงลุกไหม้มีกลุ่มควันลอยดำสูง และมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ ซึ่งเหตุดังกล่าวทำให้ลูกเรือได้รับบาดเจ็บ2รายจากการถูกไฟลวกโดยทั้งสองคนได้กระโดดลงแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลเชียงแสนแล้ว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และ นรข.ได้นำเรือออกตีน้ำสกัดไม่ให้เรือลำดังกล่าวเข้าหาฝั่งได้ และประกาศให้เรือที่จอดอยู่ริมตลิ่งเคลื่อนย้ายออกจากฝั่งเร่งด่วน เพราะเกรงว่าเรือที่เกิดเพลิงไหม้ จะเข้าชนแล้วเกิดการลุกไหม้เรือลำอื่นได้อีก เรือที่เพลิงไหม้ได้ไหลมาตามน้ำโขงเป็นระยะกว่า2กิโลเมตรตำรวจน้ำ และชุด นรข. ได้ใช้เรือขับวนและใช้คลื่นน้ำไปกระแทกเรือจนไปจอดติดเกาะบริเวณด้านหลังจุดตรวจ ตชด.327 ที่ กม.5 และเรือได้เกิดเพลิงลุกไหม้จนจมลงที่สุดโดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
รอง สว.ตร.น้ำเชียงแสน ซึ่งกำลังปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานศุลกากรเชียงแสน ตม.เชียงแสน นรข.เขตเชียงราย ทำการตรวจสอบเอกสารการส่งออกน้ำมันไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเรือทั้งสองลำได้ทำการขนถ่ายน้ำมันจากรถใส่ในเรือเรียบร้อยโดยเรือโชคพรชัย 0120 บรรทุกน้ำมันเบนซินจำนวน 46,000 ลิตร เรือมณีพร 049 บรรทุกน้ำมันดีเซลจำนวน 42,000 ลิตร จู่ๆ ได้เกิดประกายไฟขึ้นบริเวณถังเก็บน้ำมันและไฟได้ลุกวาบขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ เป็นคนสัญชาติลาว บาดเจ็บสาหัส 1 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย กู้ภัยได้นำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงแสนไปแล้ว ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
