พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ในวันนี้จะมีการหารือกรอบความชัดเจนและการวางตัวบุคคลที่จะทำหน้าที่ต่างๆ ในคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้นำรัฐธรรมนูญที่เคยใช้ในอดีตทั้ง 19 ฉบับ มาประกอบการพิจารณา ทั้งข้อดี ข้อเสีย จุดอ่อน จุดแข็ง เพื่อจัดทำเป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ซึ่งประเด็นที่เป็นจุดอ่อนและต้องเร่งแก้ไข คือเรื่องอำนาจรัฐ ที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กำหนดให้มีอำนาจการบริหารงานมากเกินไป ขณะที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ก็ลดทอนอำนาจฝ่ายบริหารจนเกิดปัญหาการชุมนุมทางการเมือง และรัฐบาลขาดเสถียรภาพ ดังนั้น ต้องนำทั้ง 2 ฉบับ มาประเมินและหาจุดสมดุล พร้อมให้คณะผู้บริหารประเทศ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มีอำนาจการบริหารงานที่ถ่วงดุลกันได้
ส่วนการลงพื้นที่ของคณะอนุกรรมาธิการทั้ง 3 คณะ คาดว่าจะประชุมร่วมกันนัดแรกสัปดาห์หน้า และร่วมกันกำหนดกรอบรัฐธรรมนูญ โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน เพื่อให้ตกผลึกทางความคิด จากนั้นจึงจะนำกรอบรัฐธรรมนูญไปพูดคุยกับพรรคการเมืองแต่ละพรรค ซึ่งน่าจะใช้เวลาในการพูดคุยกัน 3 ครั้ง ในการทำความเข้าใจ จึงจะเกิดร่างรัฐธรรมนูญออกมาได้อย่างสมบูรณ์
ส่วนการลงพื้นที่ของคณะอนุกรรมาธิการทั้ง 3 คณะ คาดว่าจะประชุมร่วมกันนัดแรกสัปดาห์หน้า และร่วมกันกำหนดกรอบรัฐธรรมนูญ โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน เพื่อให้ตกผลึกทางความคิด จากนั้นจึงจะนำกรอบรัฐธรรมนูญไปพูดคุยกับพรรคการเมืองแต่ละพรรค ซึ่งน่าจะใช้เวลาในการพูดคุยกัน 3 ครั้ง ในการทำความเข้าใจ จึงจะเกิดร่างรัฐธรรมนูญออกมาได้อย่างสมบูรณ์
