รศ.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีการศึกษาการคอร์รัปชันในการรับจำนำข้าวทุกเม็ดในฤดูกาลผลิต 2554/2555 ถึงปีการผลิต 2556-2557 รวม 5 รอบการผลิต ซึ่งรัฐบาลใช้เงินกว่า 985,000 ล้านบาท ซื้อข้าวกว่า 54.4 ล้านตัน ว่า ผลขาดทุน 54,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับการตรวจสต๊อกข้าวที่ไม่ผ่านมาตรฐานถึงร้อยละ 80 จะขาดทุน 660,000 ล้านบาท โดยหากใช้เวลาระบายข้าวนานถึง 10 ปี จะขาดทุนเพิ่มเป็น 960,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีการทุจริตระบายข้าวรวมอยู่กว่า 110,000 ล้านบาท
รศ.นิพนธ์ กล่าวว่า นับเป็นโครงการแทรกแซงตลาดข้าวครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศและเกิดการทุจริต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรใช้ผลการศึกษานี้เป็นบทเรียนในการดำเนินนโยบายช่วยเหลือชาวนา และขอให้ยุติการใช้นโยบายการรับจำนำข้าวโดยสิ้นเชิง
ทั้งนี้ แนวทางการช่วยเหลือควรเน้นไปที่ชาวนาเฉพาะกลุ่มที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และต้องปรับโครงสร้างภาคการเกษตรที่ไม่สามารถแทรกแซงสินค้าเกษตร
นอกจากนี้ ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง และกฎหมายงบประมาณรายจ่ายสำหรับโครงการแทรกแซงตลาดข้าว เพื่อควบคุมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ต้องรับผิดชอบในการดำเนินนโยบาย
สำหรับแนวทางการบริหารสต๊อกข้าวนักวิชาการทีดีอาร์ไอแนะนำให้รัฐบาลนำข้าวไปบริจาคกับองค์การอาหารโลก ส่วนที่เป็นข้าวเสื่อมสภาพให้กำจัดทิ้ง เพื่อลดภาระงบประมาณค่าจัดเก็บข้าว
รศ.นิพนธ์ กล่าวว่า นับเป็นโครงการแทรกแซงตลาดข้าวครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศและเกิดการทุจริต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรใช้ผลการศึกษานี้เป็นบทเรียนในการดำเนินนโยบายช่วยเหลือชาวนา และขอให้ยุติการใช้นโยบายการรับจำนำข้าวโดยสิ้นเชิง
ทั้งนี้ แนวทางการช่วยเหลือควรเน้นไปที่ชาวนาเฉพาะกลุ่มที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และต้องปรับโครงสร้างภาคการเกษตรที่ไม่สามารถแทรกแซงสินค้าเกษตร
นอกจากนี้ ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง และกฎหมายงบประมาณรายจ่ายสำหรับโครงการแทรกแซงตลาดข้าว เพื่อควบคุมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ต้องรับผิดชอบในการดำเนินนโยบาย
สำหรับแนวทางการบริหารสต๊อกข้าวนักวิชาการทีดีอาร์ไอแนะนำให้รัฐบาลนำข้าวไปบริจาคกับองค์การอาหารโลก ส่วนที่เป็นข้าวเสื่อมสภาพให้กำจัดทิ้ง เพื่อลดภาระงบประมาณค่าจัดเก็บข้าว