นางอัมพวัน พิชาลัย รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ หรือ อัตราเงินเฟ้อ ในเดือนตุลาคม 2557 พบว่า อยู่ที่ 107.32 สูงขึ้นร้อยละ 1.48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 12 เดือน และชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 เพราะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศปรับลดลง ตามราคาในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งราคาอาหารสด เช่น เนื้อสุกร ผักสด และไข่ไก่ ลดลง จากปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดมากขึ้น แต่ความต้องการในประเทศ ค่อนข้างทรงตัว ส่งผลให้แรงกดดันให้อัตราเงินเฟ้ออ่อนตัวลง
จากการตรวจสอบสินค้าที่นำมาคำนวณเงินเฟ้อ 450 รายการพบว่า สินค้าที่มีราคาสูงขึ้นมี 205 รายการ และอีก 154 รายการราคาเท่าเดิม ส่วนรายการที่ปรับลดลง มี 91 รายการ ส่งผลให้ระยะ 10 เดือนแรกของปีนี้ เงินเฟ้อสูงขึ้นร้อยละ 2.08 ขณะที่อีก 2 เดือนที่เหลือของปีคาดว่า แนวโน้มยังชะลอลงเช่นกัน เนื่องจากมาตรการต่าง ๆ ในการดูแลค่าครองชีพมีผลถึงสิ้นปี ประกอบกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการส่งออกยังคงชะลอตัว ทำให้คาดว่า ตลอดทั้งปีอัตราเงินเฟ้อจะขยายตัวร้อยละ 2.14 ซึ่งยังอยู่ในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 2 – 2.8 เป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน และการประกาศตรึงค่าเอฟที รวมทั้งการขอความร่วมมือผู้ผลิตให้ตรึงราคาสินค้า และบริการไว้จนถึงสิ้นปี ทำให้แรงกดดันต่อเงินเฟ้อลดลง
ส่วนปีหน้าเชื่อว่าแรงกดดันต่อเงินเฟ้อจะยังไม่มากนักต่อเนื่องจากปีนี้ ทำให้คาดการณ์ได้ว่ากรอบเงินเฟ้อปีหน้าจะใกล้เคียงกับปีนี้ แต่ตัวเลขที่ชัดเจนยังต้องขอเวลาพิจารณาอีกระยะ
ส่วนการปรับขึ้นค่าทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ จะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อเพียงร้อยละ 0.00103 ส่วนค่าโดยสารรถแท็กซี่ที่จะปรับขึ้นอีกร้อยละ 13 จะส่งผลเงินเฟ้อเพียงร้อยละ 0.00144 เท่านั้น
จากการตรวจสอบสินค้าที่นำมาคำนวณเงินเฟ้อ 450 รายการพบว่า สินค้าที่มีราคาสูงขึ้นมี 205 รายการ และอีก 154 รายการราคาเท่าเดิม ส่วนรายการที่ปรับลดลง มี 91 รายการ ส่งผลให้ระยะ 10 เดือนแรกของปีนี้ เงินเฟ้อสูงขึ้นร้อยละ 2.08 ขณะที่อีก 2 เดือนที่เหลือของปีคาดว่า แนวโน้มยังชะลอลงเช่นกัน เนื่องจากมาตรการต่าง ๆ ในการดูแลค่าครองชีพมีผลถึงสิ้นปี ประกอบกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการส่งออกยังคงชะลอตัว ทำให้คาดว่า ตลอดทั้งปีอัตราเงินเฟ้อจะขยายตัวร้อยละ 2.14 ซึ่งยังอยู่ในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 2 – 2.8 เป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน และการประกาศตรึงค่าเอฟที รวมทั้งการขอความร่วมมือผู้ผลิตให้ตรึงราคาสินค้า และบริการไว้จนถึงสิ้นปี ทำให้แรงกดดันต่อเงินเฟ้อลดลง
ส่วนปีหน้าเชื่อว่าแรงกดดันต่อเงินเฟ้อจะยังไม่มากนักต่อเนื่องจากปีนี้ ทำให้คาดการณ์ได้ว่ากรอบเงินเฟ้อปีหน้าจะใกล้เคียงกับปีนี้ แต่ตัวเลขที่ชัดเจนยังต้องขอเวลาพิจารณาอีกระยะ
ส่วนการปรับขึ้นค่าทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ จะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อเพียงร้อยละ 0.00103 ส่วนค่าโดยสารรถแท็กซี่ที่จะปรับขึ้นอีกร้อยละ 13 จะส่งผลเงินเฟ้อเพียงร้อยละ 0.00144 เท่านั้น
