xs
xsm
sm
md
lg

ศาลสั่งจำคุก 6 ปี 'สมศักดิ์ ผ่องสวัสดิ์'-ไทยฟูจิ คดีปล่อยกู้กลุ่มราเกซ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไทยฟูจิ จำกัด หมายเลขดำ ด. 3382/2542 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมศักดิ์ ผ่องสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บจก.เงินทุนหลักทรัพย์ไทยฟูจิ และนายสุรพล เนตรเจริญ กรรมการบริษัท อาร์เอสกรุ๊ป จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานกระทำการใดๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้เพื่อตนเองหรือผู้อื่น และเป็นกรรมการกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริตยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 353, 354 พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 มาตรา 75

คดีดังกล่าวอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 42 ระบุความผิดสรุปว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2536 ขณะที่นายสมศักดิ์ จำเลยที่ 1 เป็นรองกก.ผจก.บจก.เงินทุนหลักทรัพย์ไทยฟูจิ ได้อนุมัติสินเชื่อด้วยการอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 100 ล้านบาท ให้กับ บจก.อาร์เอสกรุ๊ป ที่มีจำเลยที่ 2 เป็นกรรมการไปโดยทุจริต ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบจก.อาร์เอสกรุ๊ป เป็นบริษัทในเครือของนายราเกซ สักเสนา ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี ซึ่งต่อมาบจก.เงินทุนหลักทรัพย์ไทยฟูจิ ถูกปิดกิจการ และบจก.อาร์เอสกรุ๊ป ไม่มีทรัพย์สินชำระหนี้ จึงก่อให้เกิดความเสียหาย

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า พฤติการณ์บ่งชี้ชัดว่านายสมศักดิ์ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้มีอาชีพนักธุรกิจเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน กระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย แก่ประโยชน์ในลักษณะทรัพย์สินของบจก.เงินทุนหลักทรัพย์ไทยฟูจิ เป็นการกระทำการหรือไม่กระทำการใดเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่นในความผิดฐานเป็นกรรมการกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต ยักยอกทรัพย์ และกระทำการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 มาตรา 75 ตรี 75 สัตต และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 ประกอบมาตรา 353 ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายหลายบท โดยให้ลงโทษตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ฯ มาตรา 75 สัตต ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุก 6 ปี

ส่วนนายสุรพล จำเลยที่ 2 พฤติการณ์เป็นกรรมการบจก.อาร์เอสกรุ๊ป เป็นผู้จัดทำเอกสารการขออนุมัติสินเชื่ออันเป็นข้อมูลเท็จ จนทำให้ผู้เสียหายอาวัลและรับรองตั๋วเงิน และชำระหนี้แทนบจก.อาร์เอสกรุ๊ป ซึ่งเป็นการช่วยเหลือจำเลย ที่ 1 ให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายกระทำความผิดต่อหน้าที่โดยทุจริต ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บจก.เงินทุนหลักทรัพย์ ไทยฟูจิ ให้จำคุก 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ประกอบมาตรา 86 และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้เงินแก่บจก.เงินทุนหลักทรัพย์ไทย ฟูจิ ผู้เสียหาย จำนวน 82,240,030.52 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น