นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาวอากาศเริ่มเย็นลง ทำให้เสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ควรดูแลสุขภาพร่างกายเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจและไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากหากเกิดในช่วงหน้าหนาวอาจกลายเป็นโรคหลอดลมอักเสบ และโรคปอดบวมได้
ทั้งนี้ จากรายงานสถานการณ์ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–13 ตุลาคมนี้ พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 56,280 ราย โดยมีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เสียชีวิต 63 ราย ซึ่งอาการของผู้เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ไอ เมื่อมีอาการควรนอนพักผ่อนให้มาก ดื่มน้ำบ่อยๆ หากตัวร้อนมากควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว หรือกินยาลดไข้ อาการจะค่อยดีขึ้น ภายใน 2–7 วัน แต่หากมีอาการไอมากขึ้น หรือมีไข้สูงนานเกิน2 วัน ควรไปพบแพทย์
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวด้วยว่า การสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญ ด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ อีกทั้งควรกินอาหารปรุงสุก อุ่นให้ร้อน เพื่อเพิ่มอุณหภูมิความร้อนให้แก่ร่างกาย รวมทั้งเป็นการคลายหนาวได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ จากรายงานสถานการณ์ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–13 ตุลาคมนี้ พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 56,280 ราย โดยมีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เสียชีวิต 63 ราย ซึ่งอาการของผู้เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ไอ เมื่อมีอาการควรนอนพักผ่อนให้มาก ดื่มน้ำบ่อยๆ หากตัวร้อนมากควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว หรือกินยาลดไข้ อาการจะค่อยดีขึ้น ภายใน 2–7 วัน แต่หากมีอาการไอมากขึ้น หรือมีไข้สูงนานเกิน2 วัน ควรไปพบแพทย์
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวด้วยว่า การสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญ ด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ อีกทั้งควรกินอาหารปรุงสุก อุ่นให้ร้อน เพื่อเพิ่มอุณหภูมิความร้อนให้แก่ร่างกาย รวมทั้งเป็นการคลายหนาวได้อีกทางหนึ่ง
