สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ชาวเมียนมาร์ในรัฐยะไข่ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีไทย เรียกร้องขอความเป็นธรรมในการดำเนินคดีสำหรับชาวเมียนมาร์สองคนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า จดหมายดังกล่าวเขียนในนามของเครือข่ายชาวยะไข่ ลงนามโดยนายทิน ฮู อ่อง ประธานเครือข่ายลงวันที่ 11 ตุลาคม 2557
ทั้งนี้ ในจดหมายได้ระบุถึงรายละเอียดบางประการที่สำคัญของคดีตามความเข้าใจของผู้เขียน จดหมายบอกว่า ประการแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนได้ความว่าผู้ต้องสงสัยสังหารนักท่องเที่ยวสองคนด้วยจอบ อย่างไรก็ตาม พวกเขาพบว่า บนใบหน้าและไหล่ของเดวิด มิลเลอร์ หนึ่งในเหยื่อ เป็นบาดแผลที่เกิดจากรอยมีดไม่ใช่จอบ เป็นบาดแผลเหมือนที่ปรากฏบนร่างกายของนายณอน แมคแอนนา เพื่อนของนายมิลเลอร์ ประการที่สอง ในช่วงที่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ตำรวจและล่ามที่มาช่วยอย่างไม่เป็นทางการต่างซ้อมผู้ต้องสงสัยทั้งสองทำให้พวกเขาสารภาพ และตำรวจจำเป็นต้องทบทวนผลการเก็บดีเอ็นเอของทั้งเหยื่อและผู้ต้องสงสัย พร้อมทั้งระบุว่า พื้นที่ที่เกิดเหตุอยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มมาเฟียในพื้นที่ หลายสิบปีที่ผ่านมาพื้นที่นี้ไม่มีขื่อแป “เราเชื่อว่าคนทั่วโลกมีความเห็นเช่นเดียวกันกับเรา”
เครือข่ายชาวยะไข่ ได้เรียกร้องว่า หนึ่ง ขอให้รัฐบาลไทย ทบทวนคดีนี้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม สอง ติดตามหาผู้ก่อเหตุตัวจริงโดยเร็วเพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้อิทธิพลมาเฟียท้องถิ่นและประชาชน โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วยความหวาดกลัว และ สาม ยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ร่วมมือกับรัฐบาลอังกฤษ เมียนมาร์อย่างใกล้ชิดเพราะคดีดังกล่าวมีความซับซ้อน โดยเชื่อว่ารัฐบาลไทยน่าจะตอบสนองข้อเรียกร้องของเครือข่ายชาวยะไข่ได้ เนื่องจากไทยและเมียนมาร์มีความใกล้ชิดกันทั้งศาสนา วัฒนธรรมและภูมิหลังทางประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ ในจดหมายได้ระบุถึงรายละเอียดบางประการที่สำคัญของคดีตามความเข้าใจของผู้เขียน จดหมายบอกว่า ประการแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนได้ความว่าผู้ต้องสงสัยสังหารนักท่องเที่ยวสองคนด้วยจอบ อย่างไรก็ตาม พวกเขาพบว่า บนใบหน้าและไหล่ของเดวิด มิลเลอร์ หนึ่งในเหยื่อ เป็นบาดแผลที่เกิดจากรอยมีดไม่ใช่จอบ เป็นบาดแผลเหมือนที่ปรากฏบนร่างกายของนายณอน แมคแอนนา เพื่อนของนายมิลเลอร์ ประการที่สอง ในช่วงที่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ตำรวจและล่ามที่มาช่วยอย่างไม่เป็นทางการต่างซ้อมผู้ต้องสงสัยทั้งสองทำให้พวกเขาสารภาพ และตำรวจจำเป็นต้องทบทวนผลการเก็บดีเอ็นเอของทั้งเหยื่อและผู้ต้องสงสัย พร้อมทั้งระบุว่า พื้นที่ที่เกิดเหตุอยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มมาเฟียในพื้นที่ หลายสิบปีที่ผ่านมาพื้นที่นี้ไม่มีขื่อแป “เราเชื่อว่าคนทั่วโลกมีความเห็นเช่นเดียวกันกับเรา”
เครือข่ายชาวยะไข่ ได้เรียกร้องว่า หนึ่ง ขอให้รัฐบาลไทย ทบทวนคดีนี้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม สอง ติดตามหาผู้ก่อเหตุตัวจริงโดยเร็วเพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้อิทธิพลมาเฟียท้องถิ่นและประชาชน โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วยความหวาดกลัว และ สาม ยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ร่วมมือกับรัฐบาลอังกฤษ เมียนมาร์อย่างใกล้ชิดเพราะคดีดังกล่าวมีความซับซ้อน โดยเชื่อว่ารัฐบาลไทยน่าจะตอบสนองข้อเรียกร้องของเครือข่ายชาวยะไข่ได้ เนื่องจากไทยและเมียนมาร์มีความใกล้ชิดกันทั้งศาสนา วัฒนธรรมและภูมิหลังทางประวัติศาสตร์