บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย (6-10ต.ค) ดัชนี SET ปรับลดลงต่อ จากแรงขายของนักลงทุน ท่ามกลางความกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,552.72 จุด ลดลง 1.12% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 14.06% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 45,496.31 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 688.05 จุด ลดลง 0.51% จากสัปดาห์ก่อน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับร่วงลงในช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายของนักลงทุนสถาบัน จากความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ จากแรงซื้อหุ้นกลับของนักลงทุน รวมทั้งบันทึกการประชุมเฟดที่ส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งช่วยหนุนให้บรรยากาศการลงทุนปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันศุกร์ สอดคล้องกับทิศทางดัชนีสำคัญ หลังข้อมูลเศรษฐกิจเยอรมันออกมาน่าผิดหวัง
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (13-17 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีโอกาสมีความเสี่ยงต่อการปรับลดลง ขณะที่ ตลาดคงจะติดตามเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะทยอยรายงานออกมา อาทิ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และเครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ยังต้องจับตาสถานการณ์การชุมนุมในฮ่องกง รวมทั้ง สถานการณ์การความไม่สงบในตะวันออกกลางด้วย
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับร่วงลงในช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายของนักลงทุนสถาบัน จากความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ จากแรงซื้อหุ้นกลับของนักลงทุน รวมทั้งบันทึกการประชุมเฟดที่ส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งช่วยหนุนให้บรรยากาศการลงทุนปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันศุกร์ สอดคล้องกับทิศทางดัชนีสำคัญ หลังข้อมูลเศรษฐกิจเยอรมันออกมาน่าผิดหวัง
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (13-17 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีโอกาสมีความเสี่ยงต่อการปรับลดลง ขณะที่ ตลาดคงจะติดตามเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะทยอยรายงานออกมา อาทิ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และเครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ยังต้องจับตาสถานการณ์การชุมนุมในฮ่องกง รวมทั้ง สถานการณ์การความไม่สงบในตะวันออกกลางด้วย