ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศในช่วงวันที่ 7 - 8 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา จำนวน 1,194 คน เกี่ยวกับระดับความเครียดของตัวผู้ตอบเอง พบว่าปัจจุบันในภาพรวมคนไทยส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 80.4 มีความเครียดน้อยถึงน้อยที่สุด และมีจำนวนร้อยละ 18.0 ที่เครียดมากถึงมากที่สุด เมื่อวิเคราะห์ลงไปว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้คือคนกลุ่มใด โดยเมื่อพิจารณาจากภูมิลำเนาพบว่า เป็นคนใต้มากที่สุด กล่าวคือ มีคนใต้มากถึงร้อยละ 26.1 ที่บอกว่าเครียดมากถึงมากที่สุด รองลงมาเป็นคนกรุงเทพมหานครที่ร้อยละ 22.1 เครียดมากถึงมากที่สุด เมื่อพิจารณาจากกลุ่มอาชีพพบว่า เจ้าของกิจการเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความเครียดมากถึงมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 26.1 รองลงมาเป็นกลุ่มอาชีพค้าขาย/อาชีพอิสระ/รับจ้าง และอาชีพเกษตรกร/ประมง ที่เครียดมากถึงมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 21.2 และ 21.1 ตามลำดับ ดังนั้น คนกลุ่มนี้จึงถือเป็นกลุ่มที่รัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือหรือดูแลเป็นพิเศษ
สำหรับค่าคะแนนความเครียดในภาพรวมทั่วประเทศเท่ากับ 1.88 (จากค่าความเครียด 4.00 ซึ่งเป็นระดับที่เครียดมากที่สุด) เมื่อจำแนกพิจจารณาตามข้อมูลส่วนตัวของกลุ่มตัวอย่างพบว่า กลุ่มอาชีพเกษตรกร/ประมงเป็นกลุ่มที่มีความเครียดมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอาชีพอื่น โดยมีค่าคะแนนความเครียดเท่ากับ 1.99 (เครียดน้อย) ซึ่งเรื่องที่ทำให้อาชีพเกษตรกร/ประมงเครียดคือ ปัญหาข้าวของราคาแพง (ร้อยละ 77.9) และปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ (ร้อยละ 74.3) ส่วนอาชีพที่มีความเครียดรองลงมา คือ ลูกจ้างเอกชนเท่ากับ 1.93 คะแนน อาชีพเจ้าของกิจการเท่ากับ 1.92 คะแนน และอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้างรัฐบาลเท่ากับ 1.91 คะแนน
เมื่อจำแนกตามภาคพบว่า คนภาคใต้เป็นภาคที่มีความเครียดมากกว่าภาคอื่นๆ โดยมีคะแนนความเครียดเท่ากับ 2.06 คะแนน ซึ่งเรื่องที่ทำให้คนใต้เครียดคือ ปัญหาข้าวของราคาแพง (ร้อยละ 73.6) และปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ (ร้อยละ 49.4) ส่วนภาคที่มีความเครียดรองลงมา คือ คนกรุงเทพมหานครเท่ากับ 1.92 คะแนน และคนภาคอีสานเท่ากับ 1.91 คะแนน ตามลำดับ
สรุปแล้วสาเหตุที่ทำให้เครียดคือ ข้าวของแพง ค่าครองชีพสูง และราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำทำให้ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยร้อยละ 18.0 เครียดมากถึงมากที่สุด โดยจะพบคนกลุ่มนี้เป็นคนภาคใต้ และคนที่ประกอบอาชีพเจ้าของกิจการ ค้าขาย และเกษตรกร
สำหรับค่าคะแนนความเครียดในภาพรวมทั่วประเทศเท่ากับ 1.88 (จากค่าความเครียด 4.00 ซึ่งเป็นระดับที่เครียดมากที่สุด) เมื่อจำแนกพิจจารณาตามข้อมูลส่วนตัวของกลุ่มตัวอย่างพบว่า กลุ่มอาชีพเกษตรกร/ประมงเป็นกลุ่มที่มีความเครียดมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอาชีพอื่น โดยมีค่าคะแนนความเครียดเท่ากับ 1.99 (เครียดน้อย) ซึ่งเรื่องที่ทำให้อาชีพเกษตรกร/ประมงเครียดคือ ปัญหาข้าวของราคาแพง (ร้อยละ 77.9) และปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ (ร้อยละ 74.3) ส่วนอาชีพที่มีความเครียดรองลงมา คือ ลูกจ้างเอกชนเท่ากับ 1.93 คะแนน อาชีพเจ้าของกิจการเท่ากับ 1.92 คะแนน และอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้างรัฐบาลเท่ากับ 1.91 คะแนน
เมื่อจำแนกตามภาคพบว่า คนภาคใต้เป็นภาคที่มีความเครียดมากกว่าภาคอื่นๆ โดยมีคะแนนความเครียดเท่ากับ 2.06 คะแนน ซึ่งเรื่องที่ทำให้คนใต้เครียดคือ ปัญหาข้าวของราคาแพง (ร้อยละ 73.6) และปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ (ร้อยละ 49.4) ส่วนภาคที่มีความเครียดรองลงมา คือ คนกรุงเทพมหานครเท่ากับ 1.92 คะแนน และคนภาคอีสานเท่ากับ 1.91 คะแนน ตามลำดับ
สรุปแล้วสาเหตุที่ทำให้เครียดคือ ข้าวของแพง ค่าครองชีพสูง และราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำทำให้ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยร้อยละ 18.0 เครียดมากถึงมากที่สุด โดยจะพบคนกลุ่มนี้เป็นคนภาคใต้ และคนที่ประกอบอาชีพเจ้าของกิจการ ค้าขาย และเกษตรกร