นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่าการจัดเก็บภาษีจากอี-คอมเมิร์ชนั้นขณะนี้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ช เป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการอยู่ในระบบอยู่แล้วส่วนหนึ่ง ส่วนที่ไม่อยู่ในระบบเนื่องจากรายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องชำระภาษี ขณะที่บางส่วนไม่เข้าระบบภาษี เนื่องจากไม่ทราบว่าต้องเข้าระบบภาษี ซึ่งจากการหารือกับนายกสมาคมอี-คอมเมิร์ช ทราบว่า ผู้ประกอบการทราบว่า ต้องเข้าระบบภาษีเกินกว่าครึ่ง ส่วนผู้ประกอบการที่รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องชำระภาษีมีอยู่ประมาณ 10%แต่มีที่เข้าระบบภาษีแล้ว แต่ยังเสียภาษีไม่ถูกต้องก็มีเช่นกัน ส่วนยอดขายที่มีการระบุออกมาว่า 100,000-200,000ล้านบาท อาจเป็นยอดขายที่รวมกับยอดขายหน้าร้านตามปกติก็เป็นไปได้ ดังนั้น ตัวเลขยอดขายจึงยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนในขณะนี้
ดังนั้น ในวันที่ 20ต.ค.นี้ กรมสรรพากรเตรียมที่จะจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ชให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษีอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ หากรายใดไม่เข้ามารับฟังการสัมมนาก็จะส่งคู่มือการเสียภาษีอย่างย่อไปให้เรียนรู้และสงสัยสามารถสอบถามกรมสรรพากรได้ โดยจะปฏิบัติกับผู้ประกอบการอย่างเป็นมิตร เพราะจะช่วยให้ระบบการดำเนินธุรกิจถูกต้องสามารถดำเนินธุรกิจเติบโตได้ในการขายสินค้าในการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี
ดังนั้น ในวันที่ 20ต.ค.นี้ กรมสรรพากรเตรียมที่จะจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ชให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษีอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ หากรายใดไม่เข้ามารับฟังการสัมมนาก็จะส่งคู่มือการเสียภาษีอย่างย่อไปให้เรียนรู้และสงสัยสามารถสอบถามกรมสรรพากรได้ โดยจะปฏิบัติกับผู้ประกอบการอย่างเป็นมิตร เพราะจะช่วยให้ระบบการดำเนินธุรกิจถูกต้องสามารถดำเนินธุรกิจเติบโตได้ในการขายสินค้าในการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี