พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ”ซึ่งวันนี้(3ต.ค.)เป็นครั้งแรกที่เปลี่ยนฉากหลังใหม่ ย้ายจากกองบัญชาการกองทัพบก( บก.ทบ. )มาเป็นตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลแทน
นายกฯ กล่าวถึง มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า สำหรับปัญหาเศรษฐกิจในช่วงนี้ยังคงเป็นเรื่องที่ทุกคนกังวล เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าภาคการส่งออกของไทย ซึ่งเราเป็นหลักในเรื่องของรายได้ประเทศมากกว่า 60% นั้น เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาโดยตลอด ยังมีปัญหาอันเป็นผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขการส่งออกล่าสุดเดือนสิงหาคม ที่หดตัวลงกว่าร้อยละ 7 จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ประกอบกับภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ ทั้งภาคการบริโภค และภาคการลงทุน ก็ยังซบเซามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจากปัญหาทางการเมืองและสถานการณ์โลก รัฐบาลจึงเห็นมีเพียงภาครัฐ ซึ่งเป็นเครื่องมือเดียวในขณะนี้ที่จะช่วยเหลือประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ต่อไปได้
สำหรับในช่วงระยะเวลานี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ 3 เดือน เราจะให้ภาครัฐมาช่วยกันเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก ได้สั่งการให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม เร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน ในส่วนของงบประมาณเดิมที่กันไว้แต่ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายหรือทำสัญญา ซึ่งคาดว่าหากสามารถเร่งเบิกจ่ายได้เร็วทันสิ้นปีจะช่วยให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ กว่า 160,000 ล้านบาท และจะเป็นการสร้างงานได้อีกจำนวนมาก
นอกจากนั้นได้สั่งการให้เร่งรัดทำสัญญาจ้าง สำหรับงบลงทุนปี2558 ให้สามารถเบิกจ่ายได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอีกกว่าแสนล้านบาท รวมแล้วในส่วนของภาครัฐเอง หากทุกคนร่วมมือช่วยเหลือกัน ทั้งในส่วนของการเร่งกระบวนการของภาครัฐ การตรวจสอบความโปร่งใส และในส่วนของการจ้างงานและการทำสัญญาของภาคเอกชน ก็จะทำให้มีเม็ดเงินเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ และในต้นปีหน้า รวมกันกว่า 250,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานได้พิจารณาถึงความจำเป็นและความสำคัญอย่างรอบคอบ จัดลำดับความเร่งด่วน ควบคู่ไปด้วยกับการให้พี่น้องเกิดความมั่นใจในเรื่องของความโปร่งใส ตลอดยะยะเวลาที่ผ่านมา ในทุกยุคทุกสมัยนั้น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่ามักจะมีคำกล่าวว่าเวลาเราอัดฉีดเม็ดเงินลงไปเพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ก็เหมือนกับการให้ขนม แต่มักจะไม่ถึงมือพี่น้องประชาชนทั้งชิ้นหรือทั้งก้อน สุดท้ายแล้วพี่น้องประชาชนก็ได้รับแต่เปลือกหรือส่วนน้อย แต่ในครั้งนี้ผมจะไม่ยอมให้ใครมาแกะห่อขนมกินกลางทาง ก่อนถึงมือพี่น้องประชาชนโดยเด็ดขาด ทุกหน่วยงาน ทุกระดับ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ต้องช่วยกันเฝ้าระวัง
นายกฯ กล่าวถึง มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า สำหรับปัญหาเศรษฐกิจในช่วงนี้ยังคงเป็นเรื่องที่ทุกคนกังวล เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าภาคการส่งออกของไทย ซึ่งเราเป็นหลักในเรื่องของรายได้ประเทศมากกว่า 60% นั้น เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาโดยตลอด ยังมีปัญหาอันเป็นผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขการส่งออกล่าสุดเดือนสิงหาคม ที่หดตัวลงกว่าร้อยละ 7 จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ประกอบกับภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ ทั้งภาคการบริโภค และภาคการลงทุน ก็ยังซบเซามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจากปัญหาทางการเมืองและสถานการณ์โลก รัฐบาลจึงเห็นมีเพียงภาครัฐ ซึ่งเป็นเครื่องมือเดียวในขณะนี้ที่จะช่วยเหลือประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ต่อไปได้
สำหรับในช่วงระยะเวลานี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ 3 เดือน เราจะให้ภาครัฐมาช่วยกันเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก ได้สั่งการให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม เร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน ในส่วนของงบประมาณเดิมที่กันไว้แต่ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายหรือทำสัญญา ซึ่งคาดว่าหากสามารถเร่งเบิกจ่ายได้เร็วทันสิ้นปีจะช่วยให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ กว่า 160,000 ล้านบาท และจะเป็นการสร้างงานได้อีกจำนวนมาก
นอกจากนั้นได้สั่งการให้เร่งรัดทำสัญญาจ้าง สำหรับงบลงทุนปี2558 ให้สามารถเบิกจ่ายได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอีกกว่าแสนล้านบาท รวมแล้วในส่วนของภาครัฐเอง หากทุกคนร่วมมือช่วยเหลือกัน ทั้งในส่วนของการเร่งกระบวนการของภาครัฐ การตรวจสอบความโปร่งใส และในส่วนของการจ้างงานและการทำสัญญาของภาคเอกชน ก็จะทำให้มีเม็ดเงินเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ และในต้นปีหน้า รวมกันกว่า 250,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานได้พิจารณาถึงความจำเป็นและความสำคัญอย่างรอบคอบ จัดลำดับความเร่งด่วน ควบคู่ไปด้วยกับการให้พี่น้องเกิดความมั่นใจในเรื่องของความโปร่งใส ตลอดยะยะเวลาที่ผ่านมา ในทุกยุคทุกสมัยนั้น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่ามักจะมีคำกล่าวว่าเวลาเราอัดฉีดเม็ดเงินลงไปเพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ก็เหมือนกับการให้ขนม แต่มักจะไม่ถึงมือพี่น้องประชาชนทั้งชิ้นหรือทั้งก้อน สุดท้ายแล้วพี่น้องประชาชนก็ได้รับแต่เปลือกหรือส่วนน้อย แต่ในครั้งนี้ผมจะไม่ยอมให้ใครมาแกะห่อขนมกินกลางทาง ก่อนถึงมือพี่น้องประชาชนโดยเด็ดขาด ทุกหน่วยงาน ทุกระดับ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ต้องช่วยกันเฝ้าระวัง