ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวในวันนี้ (1) ว่า เขาจะไม่พิจารณาเรื่องการจำกัดการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสำหรับผู้ใช้ชาวรัสเซีย แต่ก็เตือนว่าพบการโจมตีทางไซเบอร์ต่อขอบข่ายของรัฐเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน นับตั้งแต่วิกฤตยูเครนปะทุขึ้น
การแสดงความคิดเห็นของเขาครั้งนี้มีเป้าหมายที่การดับกระแสคาดเดาต่างๆนานาที่ว่า เขากำลังวางแผนปราบปรามการใช้อินเตอร์เน็ต ที่เขาเรียกว่าเป็น “โครงการของซีไอเอ” (หน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐฯ) ที่พวกฝ่ายคัดค้านใช้จัดฉากประท้วงต่อต้านเขา ขณะที่ความตึงเครียดที่มีกับฝ่ายตะวันตกจากวิกฤตยูเครนกำลังเพิ่มมากขึ้น
“เราไม่ได้มีแผนที่จะจำกัดการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต เพื่อทำให้มันอยู่ภายใต้การควบคุมโดยสมบูรณ์ หรือเพื่อทำให้อินเตอร์เน็ตกลายมาเป็นของรัฐ” เขาบอกต่อที่ประชุมสภาความมั่นคงซึ่งเป็นที่ปรึกษาของเขา และเป็นที่ซึ่งรวมเอาเจ้าหน้าอาวุโสด้านความมั่นคงและกลาโหมของแดนหมีขาวมาไว้ด้วยกัน
เขากล่าวว่า การจำกัดต่างๆ จะขัดต่อหลักการขั้นพื้นฐานของรัฐประชาธิปไตย และเขาไม่ “แม้แต่กำลังพิจารณา” มาตรการเหล่านั้น
การแสดงความคิดเห็นของเขาครั้งนี้มีเป้าหมายที่การดับกระแสคาดเดาต่างๆนานาที่ว่า เขากำลังวางแผนปราบปรามการใช้อินเตอร์เน็ต ที่เขาเรียกว่าเป็น “โครงการของซีไอเอ” (หน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐฯ) ที่พวกฝ่ายคัดค้านใช้จัดฉากประท้วงต่อต้านเขา ขณะที่ความตึงเครียดที่มีกับฝ่ายตะวันตกจากวิกฤตยูเครนกำลังเพิ่มมากขึ้น
“เราไม่ได้มีแผนที่จะจำกัดการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต เพื่อทำให้มันอยู่ภายใต้การควบคุมโดยสมบูรณ์ หรือเพื่อทำให้อินเตอร์เน็ตกลายมาเป็นของรัฐ” เขาบอกต่อที่ประชุมสภาความมั่นคงซึ่งเป็นที่ปรึกษาของเขา และเป็นที่ซึ่งรวมเอาเจ้าหน้าอาวุโสด้านความมั่นคงและกลาโหมของแดนหมีขาวมาไว้ด้วยกัน
เขากล่าวว่า การจำกัดต่างๆ จะขัดต่อหลักการขั้นพื้นฐานของรัฐประชาธิปไตย และเขาไม่ “แม้แต่กำลังพิจารณา” มาตรการเหล่านั้น