นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 (ตุลาคม 2556 – สิงหาคม 2557) ว่า รัฐบาลมีรายได้นําส่งคลังทั้งสิ้น 1,819,470 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 100,694 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.2 มีสาเหตุหลักจากภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว เนื่องจากอุปสงค์รถยนต์ในประเทศที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และการส่งมอบรถยนต์ภายใต้โครงการรถยนต์คันแรกเกือบครบทั้งโครงการแล้วในปีงบประมาณก่อนหน้า รวมถึงในปีที่แล้วมีการนําส่งรายได้จากการประมูลให้ใช้คลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 GHz
ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณ มีจํานวนทั้งสิ้น 2,231,126 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 62,979 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.9 ทําให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 411,656 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 67,432 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 479,088 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 231,940 ล้านบาท ทําให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 247,148 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2557 มีจํานวนทั้งสิ้น 357,904 ล้านบาท
ทั้งนี้ แม้การจัดเก็บรายได้จะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แต่ระดับเงินคงคลังที่มีอยู่ในปัจจุบันจะสามารถรองรับมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2557 และ 2558 ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณ มีจํานวนทั้งสิ้น 2,231,126 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 62,979 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.9 ทําให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 411,656 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 67,432 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 479,088 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 231,940 ล้านบาท ทําให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 247,148 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2557 มีจํานวนทั้งสิ้น 357,904 ล้านบาท
ทั้งนี้ แม้การจัดเก็บรายได้จะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แต่ระดับเงินคงคลังที่มีอยู่ในปัจจุบันจะสามารถรองรับมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2557 และ 2558 ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
