นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุการณ์คนร้ายฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยโดยรวม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง จึงได้มีบัญชาให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาหามาตรการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งจะมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวและทำงานด้านบริการในพื้นที่จำนวนมาก
ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้จังหวัดทุกจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยและป้องกันอาชญากรรม ทั้งในพื้นที่ท่องเที่ยว พื้นที่ชุมชน พื้นที่เสี่ยงอื่นๆ โดยในส่วนของหน่วยงานในสังกัดและรัฐวิสาหกิจให้กำหนดมาตรการตามภารกิจที่รับผิดชอบ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่จะนำไปสู่การก่อเหตุอาชญากรรม ในส่วนทุกจังหวัดให้กำหนดมาตรการเพิ่มความเข้มข้นในระยะเร่งด่วน โดยให้จัดกำลังรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อพื้นที่รับผิดชอบ เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลเฝ้าระวังพื้นที่ท่องเที่ยว พื้นที่ชุมชนและพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ตลอดห้วงเวลาที่อาจมีเหตุเกิดขึ้น อาทิ จัดกำลัง อส. ชุด ชรบ. สมาชิกองค์กรอาสาสมัครต่างๆ ประชาชนจิตอาสา เครือข่ายภาคเอกชน ร่วมกับตำรวจ ทหาร ในการเฝ้าระวังพื้นที่ การตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ซึ่งอาจเกิดเหตุร้ายอันตราย ตรวจสอบบุคคลผู้ต้องสงสัย ป้องกันเหตุอันตราย รวมถึงประชาสัมพันธ์แก่ผู้สัญจรไปมาเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีงามในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี และดำเนินมาตรการเพื่อลดพื้นที่เสี่ยง เช่น จัดให้มีไฟฟ้าส่องสว่างอย่างเพียงพอในพื้นที่ที่อาจเกิดอันตราย ติดตั้งกล้องวงจรปิด เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้จังหวัดทุกจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยและป้องกันอาชญากรรม ทั้งในพื้นที่ท่องเที่ยว พื้นที่ชุมชน พื้นที่เสี่ยงอื่นๆ โดยในส่วนของหน่วยงานในสังกัดและรัฐวิสาหกิจให้กำหนดมาตรการตามภารกิจที่รับผิดชอบ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่จะนำไปสู่การก่อเหตุอาชญากรรม ในส่วนทุกจังหวัดให้กำหนดมาตรการเพิ่มความเข้มข้นในระยะเร่งด่วน โดยให้จัดกำลังรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อพื้นที่รับผิดชอบ เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลเฝ้าระวังพื้นที่ท่องเที่ยว พื้นที่ชุมชนและพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ตลอดห้วงเวลาที่อาจมีเหตุเกิดขึ้น อาทิ จัดกำลัง อส. ชุด ชรบ. สมาชิกองค์กรอาสาสมัครต่างๆ ประชาชนจิตอาสา เครือข่ายภาคเอกชน ร่วมกับตำรวจ ทหาร ในการเฝ้าระวังพื้นที่ การตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ซึ่งอาจเกิดเหตุร้ายอันตราย ตรวจสอบบุคคลผู้ต้องสงสัย ป้องกันเหตุอันตราย รวมถึงประชาสัมพันธ์แก่ผู้สัญจรไปมาเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีงามในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี และดำเนินมาตรการเพื่อลดพื้นที่เสี่ยง เช่น จัดให้มีไฟฟ้าส่องสว่างอย่างเพียงพอในพื้นที่ที่อาจเกิดอันตราย ติดตั้งกล้องวงจรปิด เป็นต้น