นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการควบคุมตัวผู้ต้องหาคดีร่วมกันมีและใช้อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันควรกรณีร่วมกันใช้อาวุธสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหาร ขณะขอคืนพื้นที่การชุมนุมจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่และประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภายหลังศาลอนุญาตฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ว่า หลังรับตัวเข้าเรือนจำแล้วผู้ต้องขังจะถูกส่งตัวไปคุมขังที่แดนแรกรับเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนคัดแยกไปอยู่ในแดนอื่นที่เหมาะสม ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติของผู้ต้องขังใหม่
ส่วนการดูแลความปลอดภัยเนื่องจากเป็นผู้ต้องขังคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคม เรือนจำฯ จะปฏิบัติตามหลักการดูแลผู้ต้องขังทั่วไปเช่นเดียวกับผู้ต้องขังรายอื่น คือ มีเจ้าหน้าที่ประจำแดนคอยดูแล แต่ในแดนแรกรับจะมีกล้องวงจรปิดไว้ช่วยเจ้าหน้าที่ในการสอดส่องพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เพื่อให้ดูแลได้อย่างทั่วถึงและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ถูกคุมขังร่วมกับผู้ต้องหารายอื่น โดยเฉพาะผู้ต้องขังรายใหม่ ซึ่งต้องดูแลความเคลื่อนไหวใกล้ชิด
เบื้องต้นผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ต้องขังชาย 4 คน จะถูกคุมขังไว้รวมกันก่อน
ส่วนการดูแลความปลอดภัยเนื่องจากเป็นผู้ต้องขังคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคม เรือนจำฯ จะปฏิบัติตามหลักการดูแลผู้ต้องขังทั่วไปเช่นเดียวกับผู้ต้องขังรายอื่น คือ มีเจ้าหน้าที่ประจำแดนคอยดูแล แต่ในแดนแรกรับจะมีกล้องวงจรปิดไว้ช่วยเจ้าหน้าที่ในการสอดส่องพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เพื่อให้ดูแลได้อย่างทั่วถึงและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ถูกคุมขังร่วมกับผู้ต้องหารายอื่น โดยเฉพาะผู้ต้องขังรายใหม่ ซึ่งต้องดูแลความเคลื่อนไหวใกล้ชิด
เบื้องต้นผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ต้องขังชาย 4 คน จะถูกคุมขังไว้รวมกันก่อน