สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครย่างกุ้งประเทศเมียนมาร์ เมื่อวันที่ 11 กันยายนว่า ทางการเมียนมาร์ได้ยกเลิกการประกาศเคอร์ฟิว (ห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลาที่กำหนด) ที่บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2555 หลังเกิดการปะทะระหว่างชนสองกลุ่มที่นับถือต่างศาสนาในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศคร่าชีวิตผู้คนไม่ต่ำกว่า 192 ราย
โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงญา ซึ่งสหประชาชาติระบุว่า ชาวโรฮิงญาเกือบ 140,000 คน ยังคงอาศัยอยู่ในค่ายผู้อพยพหลังถูกม็อบชาวพุทธในเมียนมาร์กดดันจนต้องละทิ้งบ้านเรือนแต่ตอนนี้สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว ทำให้ทางการเมียนมาร์ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว
ขณะที่กลุ่มแพทย์ซานฟรอนเทียร์ประกาศว่า ทางองค์กรได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลกลางของเมียนมาร์เพื่อวางกรอบการทำงานของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ใน5 พื้นที่ รวมทั้งรัฐยะไข่ด้วย
โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงญา ซึ่งสหประชาชาติระบุว่า ชาวโรฮิงญาเกือบ 140,000 คน ยังคงอาศัยอยู่ในค่ายผู้อพยพหลังถูกม็อบชาวพุทธในเมียนมาร์กดดันจนต้องละทิ้งบ้านเรือนแต่ตอนนี้สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว ทำให้ทางการเมียนมาร์ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว
ขณะที่กลุ่มแพทย์ซานฟรอนเทียร์ประกาศว่า ทางองค์กรได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลกลางของเมียนมาร์เพื่อวางกรอบการทำงานของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ใน5 พื้นที่ รวมทั้งรัฐยะไข่ด้วย