นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการรับฟังสภาพปัญหาของลุ่มน้ำและแนวทางการแก้ไข เพื่อยกร่างแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ภาคกลาง นายวิทยา กล่าวว่า การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ความสำคัญต่อปัญหาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำเสีย ซึ่งการระดมสมองทุกภาคส่วนจะนำไปสู่เป้าหมายของการแก้ไขปัญหา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำเสนอโครงการคลองระบายน้ำบางบาล บางไทร ระยะทาง 22.4 กิโลเมตร ระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อผันน้ำเลี่ยงตัวเมือง รวมถึงเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำเลี่ยงตัวเมืองหากเกิดอุทกภัย
ด้านนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การประชุมรับฟังปัญหาน้ำในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งสาเหตุและแนวทางแก้ไขการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ไขจากคนในพื้นที่ ทั้งนี้ เมื่อได้ข้อสรุปทั้ง 4 ลุ่มน้ำ จะนำไปจัดทำแผนแม่บทบริหารจัดการน้ำของประเทศ ภายในเดือนตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำเสนอโครงการคลองระบายน้ำบางบาล บางไทร ระยะทาง 22.4 กิโลเมตร ระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อผันน้ำเลี่ยงตัวเมือง รวมถึงเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำเลี่ยงตัวเมืองหากเกิดอุทกภัย
ด้านนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การประชุมรับฟังปัญหาน้ำในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งสาเหตุและแนวทางแก้ไขการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ไขจากคนในพื้นที่ ทั้งนี้ เมื่อได้ข้อสรุปทั้ง 4 ลุ่มน้ำ จะนำไปจัดทำแผนแม่บทบริหารจัดการน้ำของประเทศ ภายในเดือนตุลาคมนี้
