รายงานข่าวจากบริษัทปตท จำกัด (มหาชน) ระบุว่าตั้งแต่วันที่ 8-12 กันยายน 2557 แหล่งก๊าซสินภูฮ่อม จ.อุดรธานี หยุดซ่อมบำรุง ส่งผลให้ปริมาณก๊าซเอ็นจีวีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำกัด โดย ปตท.ได้จัดสรรก๊าซเอ็นจีวีจากแหล่งอื่นมาช่วยแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ใช้รถเอ็นจีวีวางแผนการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว หรือใช้น้ำมันเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
นายชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 8-12 กันยายนนี้ ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งสินภูฮ่อม จังหวัดอุดรธานี มีแผนหยุดซ่อมบำรุงรักษาอุปกรณ์ ปตท.จึงมีความจำเป็นต้องหยุดการจ่ายก๊าซเอ็นจีวี ณ สถานีจ่ายก๊าซหลัก อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจัดส่งก๊าซเอ็นจีวีให้แก่สถานีบริการเอ็นจีวี รวม 37 แห่ง ในพื้นที่ 12 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุดรธานี เลย มุกดาหาร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งมีความต้องการใช้อยู่ที่ 800 ตันต่อวัน
ทั้งนี้ ปตท.เตรียมแผนขนส่งก๊าซเอ็นจีวีจากแหล่งอื่น โดยจัดสรรก๊าซเอ็นจีวีสถานีจ่ายก๊าซหลักแก่งคอย และสถานีจ่ายก๊าซหลักบ้านนา-แก่งคอย จังหวัดสระบุรี ในส่วนที่สำรองให้กับสถานีบริการเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือมาสนับสนุน รวมทั้งจัดสรรก๊าซจากสถานีจ่ายก๊าซหลักกิ่งแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อขนส่งมาให้บริการเติมก๊าซกับรถเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นการทดแทน
อย่างไรก็ตาม ปตท.ได้ประชาสัมพันธ์ ทั้งการติดตั้งป้ายและแจกเอกสาร ณ สถานีบริการน้ำมัน เพื่อแจ้งข่าวสารให้ประชาชนรับทราบ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมจัดส่งก๊าซให้ตามปกติได้ในวันที่ 13 กันยายน เป็นต้นไป
นายชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 8-12 กันยายนนี้ ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งสินภูฮ่อม จังหวัดอุดรธานี มีแผนหยุดซ่อมบำรุงรักษาอุปกรณ์ ปตท.จึงมีความจำเป็นต้องหยุดการจ่ายก๊าซเอ็นจีวี ณ สถานีจ่ายก๊าซหลัก อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจัดส่งก๊าซเอ็นจีวีให้แก่สถานีบริการเอ็นจีวี รวม 37 แห่ง ในพื้นที่ 12 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุดรธานี เลย มุกดาหาร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งมีความต้องการใช้อยู่ที่ 800 ตันต่อวัน
ทั้งนี้ ปตท.เตรียมแผนขนส่งก๊าซเอ็นจีวีจากแหล่งอื่น โดยจัดสรรก๊าซเอ็นจีวีสถานีจ่ายก๊าซหลักแก่งคอย และสถานีจ่ายก๊าซหลักบ้านนา-แก่งคอย จังหวัดสระบุรี ในส่วนที่สำรองให้กับสถานีบริการเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือมาสนับสนุน รวมทั้งจัดสรรก๊าซจากสถานีจ่ายก๊าซหลักกิ่งแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อขนส่งมาให้บริการเติมก๊าซกับรถเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นการทดแทน
อย่างไรก็ตาม ปตท.ได้ประชาสัมพันธ์ ทั้งการติดตั้งป้ายและแจกเอกสาร ณ สถานีบริการน้ำมัน เพื่อแจ้งข่าวสารให้ประชาชนรับทราบ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมจัดส่งก๊าซให้ตามปกติได้ในวันที่ 13 กันยายน เป็นต้นไป