นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า สรุปยอดเปิดรับการเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ระหว่างวันที่ 14 สิงหาคม ถึงวันที่ 2 กันยายน โดยในการเปิดรับการเสนอชื่อวันนี้วันสุดท้าย มีองค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหาผลกำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ใน 11 ด้าน โดยเป็นเข้ายื่นที่สำนักงาน กกต.จำนวน 579 คน และยื่นที่คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด 342 คน รวมทั้งสิ้นมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อในวันนี้ 921 คน
เมื่อรวมตลอด 20 วัน ของการเปิดรับการเสนอชื่อ มีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ใน 11 ด้าน จำนวน 3,959 คน โดยแยกเป็นด้านการศึกษา 619 คน ด้านอื่นๆ 575 ด้านสังคม 567 คน ด้านปกครองท้องถิ่น 383 คน ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 342 คน ด้านเศรษฐกิจ 304 คน ด้านพลังงาน 262 คน ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 258 คน ด้านการเมือง 246 คน ด้านบริหารราชการแผ่นดิน 232 คน และด้านสื่อสารมวลชน 171 คน
ส่วนในระดับจังหวัดมีผู้เข้าารับการเสนอชื่อ 2,770 คน โดยจังหวัดที่มีผู้เข้าเสนอชื่อมากสุด คือ กรุงเทมหานคร 113 คน กาฬสินธุ์ 79 คน อุบลราชธานี 71 คน สงขลา 66 คน มหาสารคาม 63 คน ส่วนจังหวัดที่มีผู้เข้าเสนอชื่อน้อยที่สุดคือ จ.ระยอง 13 คน พิจิตร 15 คน ตาก 17 คน สุราษฎร์ธานี 17 คน และชัยนาท 18 คน รวมมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อทั่วประเทศทั้งสิ้น 6,729คน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้เข้ารับการเสนอชื่อยังคงต้องรอการเสนอชื่อมาทางไปรษณีย์ ซึ่งคาดว่า กกต.จะสามารถรวบรวมรายชื่อทั้งหมดอย่างเป็นทางการไม่เกินวันที่ 4 กันยายนนี้
นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า วันที่ 4 กันยายนนี้ ที่หอประชุมสโมสรกองทัพบก วิภาวดี จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน และคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด รวมมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 500 คน ซึ่ง กกต.จะรายงานผลการดำเนินการเปิดรับการเสนอชื่อตลอด 20 วันให้ที่ประชุมได้รับทราบ พร้อมกับชี้แจงขั้นตอนกระบวนการสรรหา สปช.ให้ทราบ หลังจากนั้นทางสำนักงาน กกต.จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้งหมด และส่งชื่อให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาคัดเลือก โดยเชื่อว่าภายในวันที่ 2 ตุลาคม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะเลือกผู้เป็น สปช.250 คน
อย่างไรก็ตาม รู้สึกพอใจที่มีองค์กรนิติบุคคลให้ความสนใจเสนอชื่อบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถเข้ารับการสรรหา เชื่อว่าในสภาปฏิรูปครั้งนี้จะได้คนที่มีความหลากหลายจากสาขาอาชีพต่างๆ เข้ามาช่วยกันปฏิรูปประเทศ
เมื่อรวมตลอด 20 วัน ของการเปิดรับการเสนอชื่อ มีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ใน 11 ด้าน จำนวน 3,959 คน โดยแยกเป็นด้านการศึกษา 619 คน ด้านอื่นๆ 575 ด้านสังคม 567 คน ด้านปกครองท้องถิ่น 383 คน ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 342 คน ด้านเศรษฐกิจ 304 คน ด้านพลังงาน 262 คน ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 258 คน ด้านการเมือง 246 คน ด้านบริหารราชการแผ่นดิน 232 คน และด้านสื่อสารมวลชน 171 คน
ส่วนในระดับจังหวัดมีผู้เข้าารับการเสนอชื่อ 2,770 คน โดยจังหวัดที่มีผู้เข้าเสนอชื่อมากสุด คือ กรุงเทมหานคร 113 คน กาฬสินธุ์ 79 คน อุบลราชธานี 71 คน สงขลา 66 คน มหาสารคาม 63 คน ส่วนจังหวัดที่มีผู้เข้าเสนอชื่อน้อยที่สุดคือ จ.ระยอง 13 คน พิจิตร 15 คน ตาก 17 คน สุราษฎร์ธานี 17 คน และชัยนาท 18 คน รวมมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อทั่วประเทศทั้งสิ้น 6,729คน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้เข้ารับการเสนอชื่อยังคงต้องรอการเสนอชื่อมาทางไปรษณีย์ ซึ่งคาดว่า กกต.จะสามารถรวบรวมรายชื่อทั้งหมดอย่างเป็นทางการไม่เกินวันที่ 4 กันยายนนี้
นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า วันที่ 4 กันยายนนี้ ที่หอประชุมสโมสรกองทัพบก วิภาวดี จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน และคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด รวมมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 500 คน ซึ่ง กกต.จะรายงานผลการดำเนินการเปิดรับการเสนอชื่อตลอด 20 วันให้ที่ประชุมได้รับทราบ พร้อมกับชี้แจงขั้นตอนกระบวนการสรรหา สปช.ให้ทราบ หลังจากนั้นทางสำนักงาน กกต.จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้งหมด และส่งชื่อให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาคัดเลือก โดยเชื่อว่าภายในวันที่ 2 ตุลาคม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะเลือกผู้เป็น สปช.250 คน
อย่างไรก็ตาม รู้สึกพอใจที่มีองค์กรนิติบุคคลให้ความสนใจเสนอชื่อบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถเข้ารับการสรรหา เชื่อว่าในสภาปฏิรูปครั้งนี้จะได้คนที่มีความหลากหลายจากสาขาอาชีพต่างๆ เข้ามาช่วยกันปฏิรูปประเทศ
