นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่งในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเร่งหาทางแก้ปัญหาให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนเรื่องการเรียนพิเศษและกวดวิชานั้น กระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้เพิกเฉยแต่ได้พยายามหาทางแก้ปัญหามาโดยตลอด แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่แก้ยาก เพราะไม่สามารถปิดโรงเรียนกวดวิชาได้ เนื่องจากจัดตั้งถูกต้องตามกฏหมาย สิ่งที่ต้องทำ คือ ปรับระบบการเรียนการสอนที่ทำให้เด็กไม่ต้องไปเรียนกวดวิชา และปรับระบบการเข้าศึกษาต่อ ซึ่งจะต้องมีการหารือร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)
ด้านนายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า หลายเรื่องทีี่หัวหน้า คสช. พูดถึง สพฐ.ได้เร่งดำเนินการ อาทิ การปรับปรุงหลักสูตรโดยเฉพาะวิชาประวัติศาสตร์ ซึ่งจะเริ่มในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษานี้ ส่วนการรับจ้างทำการบ้านและการกวดวิชานั้น ในสัปดาห์หน้า สพฐ.จะออกแนวปฏิบัติเรื่องการให้การบ้าน โดยต่อไปการให้การบ้านของครูทุกโรงเรียน จะต้องเป็นแบบบูรณการ โดยต้องมีการประชุมร่วมกันก่อนจะให้การบ้านนักเรียน และต้องกำหนดด้วยว่า นักเรียนต้องใช้เวลาในการทำการบ้านมากน้อยเพียงใด ซึ่งเห็นว่าไม่ควรจะเกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้นักเรียนทำการบ้านน้อยลง
นอกจากนี้ จะให้โรงเรียนช่วยสอนเสริมให้กับเด็กโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย แบ่งเป็นกลุ่มเด็กที่เรียนอ่อน กับเด็กเก่งที่ต้องการจะพัฒนาศักยภาพ เพื่อลดการไปเสียเงินกวดวิชาของเด็ก โดยให้ทางโรงเรียนเป็นผู้จ่ายค่าตอบแทนให้กับครู แต่ทั้งนี้ครูจะต้องสอนในห้องให้เต็มที่
ด้านนายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า หลายเรื่องทีี่หัวหน้า คสช. พูดถึง สพฐ.ได้เร่งดำเนินการ อาทิ การปรับปรุงหลักสูตรโดยเฉพาะวิชาประวัติศาสตร์ ซึ่งจะเริ่มในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษานี้ ส่วนการรับจ้างทำการบ้านและการกวดวิชานั้น ในสัปดาห์หน้า สพฐ.จะออกแนวปฏิบัติเรื่องการให้การบ้าน โดยต่อไปการให้การบ้านของครูทุกโรงเรียน จะต้องเป็นแบบบูรณการ โดยต้องมีการประชุมร่วมกันก่อนจะให้การบ้านนักเรียน และต้องกำหนดด้วยว่า นักเรียนต้องใช้เวลาในการทำการบ้านมากน้อยเพียงใด ซึ่งเห็นว่าไม่ควรจะเกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้นักเรียนทำการบ้านน้อยลง
นอกจากนี้ จะให้โรงเรียนช่วยสอนเสริมให้กับเด็กโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย แบ่งเป็นกลุ่มเด็กที่เรียนอ่อน กับเด็กเก่งที่ต้องการจะพัฒนาศักยภาพ เพื่อลดการไปเสียเงินกวดวิชาของเด็ก โดยให้ทางโรงเรียนเป็นผู้จ่ายค่าตอบแทนให้กับครู แต่ทั้งนี้ครูจะต้องสอนในห้องให้เต็มที่
