นายสมชัย สัจจพงษ์ ประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ดสลากฯ ครั้งแรกในช่วงบ่ายนี้ หลังจากที่มีผู้อำนวยการสลากฯ คนใหม่ จะมีการพิจารณาเรื่องการจัดสรรโควตาสลากฯ ใหม่จำนวน 43 ล้านฉบับ แต่ว่าคงทำไม่ได้ทันที เนื่องจากบอร์ดชุดเดิมได้อนุมัติต่อสัญญาให้ผู้ค้ารายเดิมเอาไว้แล้ว ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนมิถุนายนปีหน้า โดยระหว่างนี้สำนักงานสลากฯ ได้กำหนดเงื่อนไขเข้มงวดในการมารับสลากฯ โดยผู้ค้าต้องมารับด้วยตนเอง และนำไปขาย หรือมีอาชีพค้าสลากฯ จริง มิเช่นนั้นจะถูกยึดโควตาคืน
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบและสำรวจตลาด เพื่อปฏิรูปสลากฯ อย่างถาวรต่อไป โดยจะมีการประทับตราสีน้ำเงินลงบนสลากฯ รวม 45 ล้านฉบับ ให้ขายในราคาที่เหมาะสม ไม่น่าจะเกินฉบับละ 100 บาท เพื่อผู้ค้ารับไปในราคาต้นทุนที่ 74 บาท ซึ่งหากขายเองน่าจะขายได้ ที่ราคา 85-90 บาท โดยสลากฯ 45 ล้านฉบับ ที่ปั๊มสีน้ำเงินออกไปนั้น จะแตกต่างจากสลากฯ ที่อยู่ในมือผู้ค้ารายใหญ่ที่มักจะนำไปขายต่อหลายทอด ทำให้ราคาแพง ดังนั้นการใช้วิธีการนี้จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันกันเองในตลาด ซึ่งหากใครขายแพงจะไม่มีคนซื้อ โดยที่จะเริ่มงวดวันที่ 16 กันยายนนี้ และหากผู้ค้ารายย่อยยังขายสลากฯ ที่แพง จะมีการตักเตือนและจดรายชื่อเอาไว้ หากยังขายแพงอีก จะยึดโควตาคืน โดยจะไม่ใช้วิธีจับกุม
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบและสำรวจตลาด เพื่อปฏิรูปสลากฯ อย่างถาวรต่อไป โดยจะมีการประทับตราสีน้ำเงินลงบนสลากฯ รวม 45 ล้านฉบับ ให้ขายในราคาที่เหมาะสม ไม่น่าจะเกินฉบับละ 100 บาท เพื่อผู้ค้ารับไปในราคาต้นทุนที่ 74 บาท ซึ่งหากขายเองน่าจะขายได้ ที่ราคา 85-90 บาท โดยสลากฯ 45 ล้านฉบับ ที่ปั๊มสีน้ำเงินออกไปนั้น จะแตกต่างจากสลากฯ ที่อยู่ในมือผู้ค้ารายใหญ่ที่มักจะนำไปขายต่อหลายทอด ทำให้ราคาแพง ดังนั้นการใช้วิธีการนี้จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันกันเองในตลาด ซึ่งหากใครขายแพงจะไม่มีคนซื้อ โดยที่จะเริ่มงวดวันที่ 16 กันยายนนี้ และหากผู้ค้ารายย่อยยังขายสลากฯ ที่แพง จะมีการตักเตือนและจดรายชื่อเอาไว้ หากยังขายแพงอีก จะยึดโควตาคืน โดยจะไม่ใช้วิธีจับกุม