องค์การอนามัยโลกแนะนำในวันจันทร์(18) เจ้าหน้าที่ในประเทศต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากอีโบลา ควรตรวจตราพลเรือนที่กำลังเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติ ท่าเรือ รวมถึงจุดผ่านแดนหลักๆ และต้องหยุดยั้งบุคคลใดๆก็ตามที่มีอาการของไวรัสมรณะไม่ให้ออกนอกประเทศ
อย่างไรก็ตามหน่วยงานสาธารณสุขแห่งสหประชาชาติย้ำว่าความเสี่ยงติดเชื้ออีโบลาเป็นเครื่องบินมีแค่เล็กน้อย เนื่องจากปกติแล้วผู้ติดเชื้อมักมีอาการป่วยเกินกว่าที่จะเดินทางได้ และยืนยันว่ามีความเสี่ยงระดับต่ำเช่นกันต่อเหล่าบรรดานักเดินทางในประเทศต่างๆที่ได้รับผลกระทบทั้งกินี ไลบีเรีย ไนจีเรียและเซียร์รีลีโอน
ในถ้อยแถลง องค์การอนามัยโลกยืนยันด้วยว่ายังไม่จำเป็นต้องออกข้อจำกัดด้านการเดินทางและการค้าอย่างกว้างขวาง "เหล่าประเทศที่ได้รับผลกระทบถูกร้องขอให้ตรวจวัดคัดกรองบุคคลขาออกทุกรายตามท่าอากาศยานนานาชาติ ท่าเรือและจุดผ่านแดนหลักๆ เพื่อหาผู้ป่วยที่มีอาการไข้ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้และสอดคล้องกับการติดเชื้ออีโบลา บุคคลใดก็ตามที่มีอาการป่วยสอดคล้องกับอีโบลา ไม่ควรได้รับอนุญาตให้เดินทาง ยกเว้นมันจะเป็นส่วนหนึ่งของการอพยพทางการแพทย์อย่างเหมาะสม"
องค์การอนามัยโลกบอกต่อว่าหากนักเดินทางรายใดพำนักอยู่ในพื้นที่ที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้ออีโบลาเมื่อเร็วๆนี้ ควรเดินทางไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการป่วยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมีไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ ท้องร่วง อาเจียนและอื่นๆ ขณะที่ประเทศใดๆที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้ออีโบลา ก็ควรเสริมความสามารถในการตรวจหาและจำกัดวงการแพร่ระบาดใดๆได้อย่างทันท่วงที แต่ไม่แนะนำให้คัดครองอย่างเข้มข้นต่อผู้โดยสารขาเข้า "มันจะดีกว่าหากจะคัดกรองในประเทศต่างๆในส่วนหน้า" โฆษกของ WHO กล่าว
อย่างไรก็ตามหน่วยงานสาธารณสุขแห่งสหประชาชาติย้ำว่าความเสี่ยงติดเชื้ออีโบลาเป็นเครื่องบินมีแค่เล็กน้อย เนื่องจากปกติแล้วผู้ติดเชื้อมักมีอาการป่วยเกินกว่าที่จะเดินทางได้ และยืนยันว่ามีความเสี่ยงระดับต่ำเช่นกันต่อเหล่าบรรดานักเดินทางในประเทศต่างๆที่ได้รับผลกระทบทั้งกินี ไลบีเรีย ไนจีเรียและเซียร์รีลีโอน
ในถ้อยแถลง องค์การอนามัยโลกยืนยันด้วยว่ายังไม่จำเป็นต้องออกข้อจำกัดด้านการเดินทางและการค้าอย่างกว้างขวาง "เหล่าประเทศที่ได้รับผลกระทบถูกร้องขอให้ตรวจวัดคัดกรองบุคคลขาออกทุกรายตามท่าอากาศยานนานาชาติ ท่าเรือและจุดผ่านแดนหลักๆ เพื่อหาผู้ป่วยที่มีอาการไข้ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้และสอดคล้องกับการติดเชื้ออีโบลา บุคคลใดก็ตามที่มีอาการป่วยสอดคล้องกับอีโบลา ไม่ควรได้รับอนุญาตให้เดินทาง ยกเว้นมันจะเป็นส่วนหนึ่งของการอพยพทางการแพทย์อย่างเหมาะสม"
องค์การอนามัยโลกบอกต่อว่าหากนักเดินทางรายใดพำนักอยู่ในพื้นที่ที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้ออีโบลาเมื่อเร็วๆนี้ ควรเดินทางไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการป่วยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมีไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ ท้องร่วง อาเจียนและอื่นๆ ขณะที่ประเทศใดๆที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้ออีโบลา ก็ควรเสริมความสามารถในการตรวจหาและจำกัดวงการแพร่ระบาดใดๆได้อย่างทันท่วงที แต่ไม่แนะนำให้คัดครองอย่างเข้มข้นต่อผู้โดยสารขาเข้า "มันจะดีกว่าหากจะคัดกรองในประเทศต่างๆในส่วนหน้า" โฆษกของ WHO กล่าว