เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ควบคุมตัว ร.ต.อ.นพฤทธิ์ วิเศษศักดิ์ อดีต รองสารวัตรธุรการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 ช่วยราชการ สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 กับ นางสวรรค์ ใจสงัด มารดา จ.ส.อ.(หญิง) เกสรา ใจสงัด ทหารกองพลาธิการ กรมยุทธบริการทหารบก ผู้ตาย พร้อมบุตร 2 คน ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ในความผิดฆ่าผู้อื่น และนำอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จากกรณีจำเลยใช้อาวุธปืนยิง จ.ส.อ.(หญิง) เกสรา เสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สั่งจำคุก 15 ปี ฐานพกพาอาวุธปืน ปรับ 2,100 บาท แต่คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 10 ปี ปรับ 1,400 บาท
วันนี้ (13 ส.ค.) ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฎีกาของจำเลย ที่ขอให้ลงโทษสถานเบา เนื่องจากไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย และได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ร่วมจนเป็นที่พอใจแล้วนั้น ศาลฯ เห็นว่าไม่เป็นสาระให้พิจารณา เนื่องจากศาลชั้นล่างวินิจฉัยสมควรแล้ว จึงไม่รับไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดี โดยให้คงโทษจำเลยตามศาลอุทธรณ์ คือ จำคุก 10 ปี ปรับ 1,400 บาท โดยไม่รอลงอาญา
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สั่งจำคุก 15 ปี ฐานพกพาอาวุธปืน ปรับ 2,100 บาท แต่คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 10 ปี ปรับ 1,400 บาท
วันนี้ (13 ส.ค.) ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฎีกาของจำเลย ที่ขอให้ลงโทษสถานเบา เนื่องจากไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย และได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ร่วมจนเป็นที่พอใจแล้วนั้น ศาลฯ เห็นว่าไม่เป็นสาระให้พิจารณา เนื่องจากศาลชั้นล่างวินิจฉัยสมควรแล้ว จึงไม่รับไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดี โดยให้คงโทษจำเลยตามศาลอุทธรณ์ คือ จำคุก 10 ปี ปรับ 1,400 บาท โดยไม่รอลงอาญา