กูเกิล (Google) กำลังเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทโทรคมนาคมในเอเชีย 5 แห่งเพื่อจัดวางสายเคเบิลใต้น้ำมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 9.6 พันล้านบาท ) ทั่วทั้งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งนับเป็นหนึ่งในความพยายามรองรับการใช้อินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โครงการที่มีชื่อว่า FASTER นี้จะได้เห็นสายใยแก้วนำแสงยาว 9,600 กิโลเมตรแผ่ขยายจาก 2 จุดในญี่ปุ่นไปจนถึงจนถึงสหรัฐฯ และจะมีขยายต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ในเอเชียอีกในภายหลัง กลุ่มบริษัทแถลง
ในสหรัฐฯสายเคเบิลดังกล่าวจะแผ่ขยายออกไปเชื่อมต่อกับเมืองสำคัญๆ บนชายฝั่งตะวันตก รวมถึง เมืองลอสแอนเจลิส , ซาน ฟรานซิสโก , พอร์ทแลนด์ และซีแอตเทิล พวกเขาระบุ
มีสายเคเบิลโทรคมนาคมหลายร้อยสายใต้น้ำที่เชื่อมต่อกับจุดต่างๆ มากมายในโลก แต่ “ระบบสายเคเบิล FASTER นี้มีกำลังการผลิตเต็มที่ที่มากที่สุดเท่าที่เคยสร้างบนเส้นทางภาคพื้นแปซิฟิก ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่ยาวที่สุดในโลก” วูฮยอง ชอย ประธานคณะกรรมการบริหารของโครงการนี้กล่าวในถ้อยแถลง
กลุ่มบริษัทเผยว่า บริษัท NEC ของแดนอาทิตย์อุทัยจะเป็นผู้จัดวางระบบนี้ ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้บริการได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2016
โครงการที่มีชื่อว่า FASTER นี้จะได้เห็นสายใยแก้วนำแสงยาว 9,600 กิโลเมตรแผ่ขยายจาก 2 จุดในญี่ปุ่นไปจนถึงจนถึงสหรัฐฯ และจะมีขยายต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ในเอเชียอีกในภายหลัง กลุ่มบริษัทแถลง
ในสหรัฐฯสายเคเบิลดังกล่าวจะแผ่ขยายออกไปเชื่อมต่อกับเมืองสำคัญๆ บนชายฝั่งตะวันตก รวมถึง เมืองลอสแอนเจลิส , ซาน ฟรานซิสโก , พอร์ทแลนด์ และซีแอตเทิล พวกเขาระบุ
มีสายเคเบิลโทรคมนาคมหลายร้อยสายใต้น้ำที่เชื่อมต่อกับจุดต่างๆ มากมายในโลก แต่ “ระบบสายเคเบิล FASTER นี้มีกำลังการผลิตเต็มที่ที่มากที่สุดเท่าที่เคยสร้างบนเส้นทางภาคพื้นแปซิฟิก ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่ยาวที่สุดในโลก” วูฮยอง ชอย ประธานคณะกรรมการบริหารของโครงการนี้กล่าวในถ้อยแถลง
กลุ่มบริษัทเผยว่า บริษัท NEC ของแดนอาทิตย์อุทัยจะเป็นผู้จัดวางระบบนี้ ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้บริการได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2016