ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดธานีนำโดย นางมณี บุญรอด เดินทางไปที่สำนักงานศาลปกครองอุดรธานี เพื่อฟังคำสั่งศาลปกครองสูงสุดคดีที่นางมณี พร้อมพวกรวม 47 คน ฟ้องกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี และผู้นำท้องถิ่นรวม 5 คน โดยกล่าวหาว่ารายงานการไต่สวนคำขอประทานบัตรเหมืองแร่โปแตชอุดรธานี ของบริษัท เอเชีย แปซิฟิก โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ เอพีพีซี ทั้ง 4 ฉบับ เป็นรายงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้เพิกถอนรายงานดังกล่าว เพราะรายงานที่จัดทำขึ้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เป็นการทำแบบผิดขั้นตอน และไม่ชอบด้วยกฎหมาย นำไปสู่ความขัดแย้งในชุมชน ล่อแหลมต่อการบุกรุก จนสูญเสียที่ดินสาธารณประโยชน์ ลำห้วยสาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2555 ซึ่งศาลปกครองอุดรธานีไม่รับฟ้อง จึงยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด จนกระทั่งศาลสั่งประทับรับฟ้อง แต่ยังไม่กำหนดวันนัดไต่สวน
แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวว่า ดีใจที่ศาลปกครองสูงสุดรับฟ้อง หลังจากต้องรอเวลามานานกว่า 2 ปี ส่วนสาเหตุที่ฟ้อง เพราะหน่วยงานราชการมีความพยายามเร่งรีบให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านลงนามรับรองแผนที่แนวเขตเหมือง เพื่อใช้ประกอบรายงานการไต่สวนคำขอประทานบัตร ซึ่งรายงานดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จากนี้ไปเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์จะเดินหน้าต่อสู้ เพื่อคัดค้านการทำเหมืองแร่โปแตชให้ถึงที่สุด
แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวว่า ดีใจที่ศาลปกครองสูงสุดรับฟ้อง หลังจากต้องรอเวลามานานกว่า 2 ปี ส่วนสาเหตุที่ฟ้อง เพราะหน่วยงานราชการมีความพยายามเร่งรีบให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านลงนามรับรองแผนที่แนวเขตเหมือง เพื่อใช้ประกอบรายงานการไต่สวนคำขอประทานบัตร ซึ่งรายงานดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จากนี้ไปเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์จะเดินหน้าต่อสู้ เพื่อคัดค้านการทำเหมืองแร่โปแตชให้ถึงที่สุด
