สื่อต่างประเทศรายงานข่าวสะเทือนใจจากภัยสงคราม เมื่อทารกน้อยที่คลอดก่อนกำหนดและรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังคณะแพทย์ในกาซาช่วยกันผ่าตัดออกมาจากศพผู้เป็นแม่ที่ตายเพราะปฏิบัติการถล่มทางอากาศของอิสราเอล กลับต้องมาอำลาโลกตามไปอีกคน สืบเนื่องจากมีโรคแทรกซ้อนและปัญหาไฟฟ้าไม่พอเพียงในห้องฉุกเฉินที่หนูน้อยนอนรักษาตัวอยู่
ทารกวัย 6 วันลืมตาดูโลกจากการผ่าตัดทำคลอดฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(25) หลังคณะแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งตอนกลางของฉนวนกาซา ช่วยชีวิตหนูน้อยเพศหญิงออกมาจากครรภ์ของมารดา ที่เสียชีวิตจากกระสุนปืนใหญ่ของรถถังอิสราเอลยิงเข้ามาตกใส่บ้านของเธอ
อย่างไรก็ตามด้วยที่เธอขาดออกซิเจนระหว่างที่ผู้เป็นแม่เสียชีวิตรวมถึงช่วงเวลาที่แพทย์กำลังผ่าตัด นั่นหมายความว่าหลังจากลืมตาดูโลกแล้ว หนูน้อยก็ยังจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
"เธอขาดอากาศหายใจตอนอยู่ในครรภ์ หลังจากหัวใจของผู้เป็นแม่หยุดเต้น" นายแพทย์อับเดล คาเรม อัล-บาวาบ หัวหน้าแผนกสูติกรรมของโรงพยาบาลนาสเซอร์บอกกับเอเอฟพีในวันพฤหัสบดี(31) "การขาดอาการหายใจ ทำให้เธอสมองตาย และเหตุไฟฟ้าขาดแคลนก็เป็นสาเหตุด้วย เพราะว่าสายออกซิเจนทำงานไม่สมบูรณ์และเราต้องปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพเธอด้วยมือเปล่ามากกว่า 1 ครั้ง"
ทารกวัย 6 วันลืมตาดูโลกจากการผ่าตัดทำคลอดฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(25) หลังคณะแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งตอนกลางของฉนวนกาซา ช่วยชีวิตหนูน้อยเพศหญิงออกมาจากครรภ์ของมารดา ที่เสียชีวิตจากกระสุนปืนใหญ่ของรถถังอิสราเอลยิงเข้ามาตกใส่บ้านของเธอ
อย่างไรก็ตามด้วยที่เธอขาดออกซิเจนระหว่างที่ผู้เป็นแม่เสียชีวิตรวมถึงช่วงเวลาที่แพทย์กำลังผ่าตัด นั่นหมายความว่าหลังจากลืมตาดูโลกแล้ว หนูน้อยก็ยังจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
"เธอขาดอากาศหายใจตอนอยู่ในครรภ์ หลังจากหัวใจของผู้เป็นแม่หยุดเต้น" นายแพทย์อับเดล คาเรม อัล-บาวาบ หัวหน้าแผนกสูติกรรมของโรงพยาบาลนาสเซอร์บอกกับเอเอฟพีในวันพฤหัสบดี(31) "การขาดอาการหายใจ ทำให้เธอสมองตาย และเหตุไฟฟ้าขาดแคลนก็เป็นสาเหตุด้วย เพราะว่าสายออกซิเจนทำงานไม่สมบูรณ์และเราต้องปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพเธอด้วยมือเปล่ามากกว่า 1 ครั้ง"
