นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะคณะกรรมการ ปตท. เปิดเผยว่า ตนได้เสนอแนวทางทางลดปริมาณสต็อกข้าวของรัฐบาล ด้วยการนำข้าวเสียไม่สามารถนำไปบริโภคได้ มาผลิตเป็นเอทานอล เพื่อลดค่าใช้จ่ายค่าเช่าโกดัง เบื้องต้นได้หารือกับทางคณะกรรมการ ปตท. แล้วและมีความสนใจโดยได้รับหลักการไว้แล้ว แต่หลังจากนี้ยังต้องหารืออย่างเป็นทางการในการประชุมคณะกรรมการ ปตท.ในครั้งต่อไป เพื่อพิจารณาราคารับซื้อข้าวเสียในราคาที่ปตท.จะรับซื้อได้ แบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งปตท. ต้องมีความคุ้มค่ากับค่าต้นทุนการผลิตเอทานอล เพราะราคาข้าวเสียดังกล่าวมีความเสี่ยงด้านราคา น่าจะต่ำกว่า 20% ของราคาข้าว
แต่ทั้งนี้ยังต้องรอผลการตรวจสอบสต็อกข้าวของรัฐบาล โดยคณะกรรมการตรวจสอบสต็อกข้าว คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบล่าสุดพบว่า มีข้าวเสียที่ไม่สามารถบริโภคได้ประมาณ 1 แสนล้านตัน จากปริมาณข้าวในสต็อกรัฐบาลทั้งหมด 18 ล้านตัน ในจำนวนนี้เป็นข้าวของ อตก.และอคส. จำนวน 4 ล้านตัน
“ส่วนตัวมองว่า หากตรวจสอบพบข้าวเสียที่ไหนก็ให้นำมาดำเนินการดังกล่าวได้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย เพราะข้าวเสียราคาต่ำกว่าอยู่แล้วและรัฐยังต้องมาเสียค่าเช่าโกดังเก็บอีก เป็นรายจ่ายโดยใช่เหตุ ส่วนจะนำข้าวเสียซึ่งเป็นของกลาง เพื่อมาดำเนินการได้เลยหรือไม่นั้น ทางปปช.อยู่จะหารือกับทางคสช.ด้วยเช่นกัน ดังนั้นภาพรวมว่าจะดำเนินการอย่างไร ต้องรอทาง นบข.สรุปแนวทางการดำเนินการที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐมากที่สุด ”
นอกจากนี้หลังจากตรวจสต็อกข้าวรัฐบาลแล้ว จะดำเนินการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวทั้งหมด โดยตนเป็นประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชี และมีคณะกรรมการชุดเดิม แต่จะเพิ่มสภาวิชาชีพบัญชีอีก 1 คน เพื่อให้การปิดบัญชีจำนำข้าวเป็นไปตามมาตรฐานสากล
แต่ทั้งนี้ยังต้องรอผลการตรวจสอบสต็อกข้าวของรัฐบาล โดยคณะกรรมการตรวจสอบสต็อกข้าว คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบล่าสุดพบว่า มีข้าวเสียที่ไม่สามารถบริโภคได้ประมาณ 1 แสนล้านตัน จากปริมาณข้าวในสต็อกรัฐบาลทั้งหมด 18 ล้านตัน ในจำนวนนี้เป็นข้าวของ อตก.และอคส. จำนวน 4 ล้านตัน
“ส่วนตัวมองว่า หากตรวจสอบพบข้าวเสียที่ไหนก็ให้นำมาดำเนินการดังกล่าวได้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย เพราะข้าวเสียราคาต่ำกว่าอยู่แล้วและรัฐยังต้องมาเสียค่าเช่าโกดังเก็บอีก เป็นรายจ่ายโดยใช่เหตุ ส่วนจะนำข้าวเสียซึ่งเป็นของกลาง เพื่อมาดำเนินการได้เลยหรือไม่นั้น ทางปปช.อยู่จะหารือกับทางคสช.ด้วยเช่นกัน ดังนั้นภาพรวมว่าจะดำเนินการอย่างไร ต้องรอทาง นบข.สรุปแนวทางการดำเนินการที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐมากที่สุด ”
นอกจากนี้หลังจากตรวจสต็อกข้าวรัฐบาลแล้ว จะดำเนินการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวทั้งหมด โดยตนเป็นประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชี และมีคณะกรรมการชุดเดิม แต่จะเพิ่มสภาวิชาชีพบัญชีอีก 1 คน เพื่อให้การปิดบัญชีจำนำข้าวเป็นไปตามมาตรฐานสากล
