นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำในช่วงที่เหลือของปีนี้จะผันผวนมากกว่าช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยที่เข้ามากระทบยังมีความไม่แน่นอน ทั้งความกังวลต่อเหตุการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้นในฉนวนกาซาและความตึงเครียดในยูเครน ซึ่งทำให้ราคาทองคำผันผวนอยู่ในกรอบ 1,170-1,450 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
นอกจากนี้ ยังต้องจับตากองทุนเก็งกำไรว่าจะกลับมาลงทุนมาในทองคำใหม่อีกหรือไม่ หลังจากในช่วงที่ผ่านมาเทขายทองคำและให้น้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้น เชื่อว่า ในระยะสั้นราคาทองคำยังอยู่ช่วงปรับฐาน ถ้าหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,275 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองจะปรับลดลงต่อได้อีก โดยยังต้องจับตานโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2558 ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อราคาทอง
ทั้งนี้ นายจิตติ แนะนำว่า นักลงทุนควรลงทุนในระยะสั้นมากกว่าระยะยาว โดยเฉพาะราคาในประเทศที่เงินบาทเป็นปัจจัยกดดันที่สำคัญ หากเงินบาทแข็งค่าเหมือนที่ผ่านมาราคาทองคำปีนี้คาดว่า จะสูงสุดที่ 21,000 บาทต่อบาท แต่หากอ่อนค่าถึง 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองอาจจะสูงสุดที่ 22,000 บาท
นอกจากนี้ ยังต้องจับตากองทุนเก็งกำไรว่าจะกลับมาลงทุนมาในทองคำใหม่อีกหรือไม่ หลังจากในช่วงที่ผ่านมาเทขายทองคำและให้น้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้น เชื่อว่า ในระยะสั้นราคาทองคำยังอยู่ช่วงปรับฐาน ถ้าหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,275 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองจะปรับลดลงต่อได้อีก โดยยังต้องจับตานโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2558 ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อราคาทอง
ทั้งนี้ นายจิตติ แนะนำว่า นักลงทุนควรลงทุนในระยะสั้นมากกว่าระยะยาว โดยเฉพาะราคาในประเทศที่เงินบาทเป็นปัจจัยกดดันที่สำคัญ หากเงินบาทแข็งค่าเหมือนที่ผ่านมาราคาทองคำปีนี้คาดว่า จะสูงสุดที่ 21,000 บาทต่อบาท แต่หากอ่อนค่าถึง 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองอาจจะสูงสุดที่ 22,000 บาท
