สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) รีบร้อนยกเลิกคำสั่งห้ามสายการบินอเมริกันเข้า-ออกอิสราเอลตั้งแต่วันพุธ (23 ก.ค.) พร้อมแถลงแก้เกี้ยวจะจับตาสถานการณ์ที่ผันผวนรอบท่าอากาศยานเบน กูเรียน ของกรุงเทลอาวีฟอย่างใกล้ชิด และดำเนินมาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น ทว่า สายการบินแดนอินทรีบางแห่งตัดสินใจงดให้บริการเส้นทางสู่รัฐยิวต่อเป็นการชั่วคราว เช่นเดียวกับยุโรปที่ขยายผลคำสั่งงดเที่ยวบินสู่-จากอิสราเอลอีกหนึ่งวันในวันพฤหัสบดี (24) ด้านสถานการณ์การปะทะยังคงดุเดือดเช่นทุกวัน ยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ทะลุ 700 ส่วนฝั่งยิวตายเพิ่ม 35 คนในจำนวนนี้มีคนไทย 1 คนรวมอยู่ด้วย
ในวันพุธ FAAยกเลิกคำสั่งห้ามสายการบินอเมริกันบินเข้า-ออกอิสราเอล ซึ่งประกาศออกมาหลังมีจรวดลูกหนึ่งซึ่งยิงจากดินแดนฉนวนกาซา โดยคาดกันว่าเป็นฝีมือพวกกลุ่มฮามาส ไปตกใกล้ๆ ท่าอากาศยานเบน กูเรียนเมื่อวันอังคาร (22)
คำแถลงของ FAA ระบุว่า ได้ร่วมประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยในอิสราเอลกับรัฐบาลสหรัฐฯ รวมทั้งทบทวนข้อมูลและมาตรการใหม่ที่รัฐบาลอิสราเอลดำเนินการเพื่อลดทอนแนวโน้มความเสี่ยงสำหรับการบินพลเรือน ก่อนตัดสินใจยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
ทั้งนี้ คำแถลงย้ำว่า จะติดตามสถานการณ์ที่ผันผวนอย่างมากรอบสนามบินเบน กูเรียนอย่างใกล้ชิด และจะดำเนินการเพิ่มเติมหากจำเป็น
การสั่งห้ามบินเข้าออกอิสราเอลของ FAA นั้น เป็นวิธีปฏิบัติตามปกติเมื่อเกิดสถานการณ์อันไม่น่าไว้วางใจต่อความปลอดภัยของพลเมืองชาวอเมริกันเช่นนี้ แต่ก็ถูกวิจารณ์จากรัฐบาลรัฐยิว รวมทั้งวุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ จากเทกซัส ที่ตั้งคำถามว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ใช้หน่วยงานรัฐบาลอเมริกันเพื่อลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิสราเอลหรือไม่
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ก็ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ถึงรัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ของสหรัฐฯ ขอให้ยกเลิกมาตรการนี้ โดยระบุว่าเป็นผลร้ายต่ออิสราเอล และต่อมาในวันพุธ ก่อนที่ FAA จะยกเลิกคำสั่งห้ามเสียอีก เคร์รีก็นั่งเครื่องบินเดินทางจากอียิปต์มาลงที่ท่าอากาศยานเบน กูเรียน
แต่ถึงแม้ FAA ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวแล้ว โดยสายการบินอเมริกันจะกลับไปให้บริการเที่ยวบินอิสราเอลได้อีกครั้งตั้งแต่วันพฤหัสบดี ทว่า เดลตา แอร์ไลนส์ ที่ยกเลิกเที่ยวบินเทล อาวีฟก่อนที่ FAA จะสั่งแบนด้วยซ้ำ เผยว่า จะยังคงงดให้บริการเที่ยวบินดังกล่าวต่อไปเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือ และขอสงวนสิทธิ์พิจารณาความปลอดภัยสำหรับเที่ยวบินดังกล่าวด้วยข้อมูลของสายการบินเอง
ในวันพุธ FAAยกเลิกคำสั่งห้ามสายการบินอเมริกันบินเข้า-ออกอิสราเอล ซึ่งประกาศออกมาหลังมีจรวดลูกหนึ่งซึ่งยิงจากดินแดนฉนวนกาซา โดยคาดกันว่าเป็นฝีมือพวกกลุ่มฮามาส ไปตกใกล้ๆ ท่าอากาศยานเบน กูเรียนเมื่อวันอังคาร (22)
คำแถลงของ FAA ระบุว่า ได้ร่วมประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยในอิสราเอลกับรัฐบาลสหรัฐฯ รวมทั้งทบทวนข้อมูลและมาตรการใหม่ที่รัฐบาลอิสราเอลดำเนินการเพื่อลดทอนแนวโน้มความเสี่ยงสำหรับการบินพลเรือน ก่อนตัดสินใจยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
ทั้งนี้ คำแถลงย้ำว่า จะติดตามสถานการณ์ที่ผันผวนอย่างมากรอบสนามบินเบน กูเรียนอย่างใกล้ชิด และจะดำเนินการเพิ่มเติมหากจำเป็น
การสั่งห้ามบินเข้าออกอิสราเอลของ FAA นั้น เป็นวิธีปฏิบัติตามปกติเมื่อเกิดสถานการณ์อันไม่น่าไว้วางใจต่อความปลอดภัยของพลเมืองชาวอเมริกันเช่นนี้ แต่ก็ถูกวิจารณ์จากรัฐบาลรัฐยิว รวมทั้งวุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ จากเทกซัส ที่ตั้งคำถามว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ใช้หน่วยงานรัฐบาลอเมริกันเพื่อลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิสราเอลหรือไม่
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ก็ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ถึงรัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ของสหรัฐฯ ขอให้ยกเลิกมาตรการนี้ โดยระบุว่าเป็นผลร้ายต่ออิสราเอล และต่อมาในวันพุธ ก่อนที่ FAA จะยกเลิกคำสั่งห้ามเสียอีก เคร์รีก็นั่งเครื่องบินเดินทางจากอียิปต์มาลงที่ท่าอากาศยานเบน กูเรียน
แต่ถึงแม้ FAA ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวแล้ว โดยสายการบินอเมริกันจะกลับไปให้บริการเที่ยวบินอิสราเอลได้อีกครั้งตั้งแต่วันพฤหัสบดี ทว่า เดลตา แอร์ไลนส์ ที่ยกเลิกเที่ยวบินเทล อาวีฟก่อนที่ FAA จะสั่งแบนด้วยซ้ำ เผยว่า จะยังคงงดให้บริการเที่ยวบินดังกล่าวต่อไปเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือ และขอสงวนสิทธิ์พิจารณาความปลอดภัยสำหรับเที่ยวบินดังกล่าวด้วยข้อมูลของสายการบินเอง