มารดาของน้องแก้ม เด็กหญิงอายุ 13 ปี ที่เสียชีวิตระหว่างโดยสารรถไฟเข้ามากรุงเทพฯ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา กำลังเตรียมนำพวงมาลัยมาให้ผู้ต้องหาขอขมาต่อหน้าภาพถ่ายของน้องแก้ม ภายในศาลจังหวัดหัวหิน ภายหลังจากที่วันนี้มีการนัดคู่ความมาตรวจพยานหลักฐาน และขอยื่นสอบพยานฝ่ายโจทก์ โดยศาลอนุญาตให้มีการขอขมาได้ภายในห้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท แต่ไม่อนุญาตให้สื่อบันทึกภาพภายในห้อง
ส่วนการตรวจพยานหลักฐานในวันนี้ อัยการจังหวัดหัวหินได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดหัวหิน ในการขอสืบพยานโจทก์รวม 38 ปาก โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นชอบให้มีการนัดสืบพยานโจทก์รวม 26 ปาก โดยแบ่งเป็น 4 นัด ในระหว่างวันที่ 6 14 15 และ 21 สิงหาคม โดยที่มารดาของน้องแก้มมีการขอยื่นเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้ด้วย และศาลอนุญาตให้ร่วมได้ ยกเว้นในเรื่องการฟ้องความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ.2552
ขณะที่ทนายฝ่ายจำเลยที่ 2 คือ นายณัฐกร ชำนาญ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันสนับสนุบกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และยังให้การปฏิเสธอยู่ ได้มีการยื่นคำร้องต่อศาลให้มีการสืบพยานจำเลยรวม 32 ปาก แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นควรให้สืบพยานฝ่ายจำเลยได้เพียง 8 ปากเท่านั้น ส่วนพยานจำเลยที่ 1 ขอสืบเพิ่มอีก 1 ปาก และศาลได้มีการนัดไต่สวนในวันที่ 22 สิงหาคมนี้
นอกจากนี้ ทางด้านทนายจำเลยที่ 2 ได้มีการยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัวชั่วคราวต่อศาล หลังจากศาลชั้นต้นนั้น ไม่อนุญาตให้มีการประกันตัว โดยศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราวกับนายณัฐกร เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีคดี
ส่วนการตรวจพยานหลักฐานในวันนี้ อัยการจังหวัดหัวหินได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดหัวหิน ในการขอสืบพยานโจทก์รวม 38 ปาก โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นชอบให้มีการนัดสืบพยานโจทก์รวม 26 ปาก โดยแบ่งเป็น 4 นัด ในระหว่างวันที่ 6 14 15 และ 21 สิงหาคม โดยที่มารดาของน้องแก้มมีการขอยื่นเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้ด้วย และศาลอนุญาตให้ร่วมได้ ยกเว้นในเรื่องการฟ้องความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ.2552
ขณะที่ทนายฝ่ายจำเลยที่ 2 คือ นายณัฐกร ชำนาญ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันสนับสนุบกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และยังให้การปฏิเสธอยู่ ได้มีการยื่นคำร้องต่อศาลให้มีการสืบพยานจำเลยรวม 32 ปาก แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นควรให้สืบพยานฝ่ายจำเลยได้เพียง 8 ปากเท่านั้น ส่วนพยานจำเลยที่ 1 ขอสืบเพิ่มอีก 1 ปาก และศาลได้มีการนัดไต่สวนในวันที่ 22 สิงหาคมนี้
นอกจากนี้ ทางด้านทนายจำเลยที่ 2 ได้มีการยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัวชั่วคราวต่อศาล หลังจากศาลชั้นต้นนั้น ไม่อนุญาตให้มีการประกันตัว โดยศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราวกับนายณัฐกร เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีคดี
