ในวันนี้ (21 ก.ค.) ญาติและเพื่อนร่วมเครือข่ายพัฒนาเอกชนภาคตะวันออก จะร่วมกันนำศพ นายสุทธิ อัชฌาศัย จากวัดตรีมิตรประดิษฐาราม จ.ระยอง มาให้แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ สาเหตุการเสียชีวิต หลังญาติและเพื่อนยังติดใจ และมีข้อสังเกตหลายประเด็น ทั้งพบมีการใช้กระสุนปืนถึง 4 นัด 3 นัดแรกถูกที่กระจกรถ 2 นัด และอีกนัดทะลุสังกะสีหลังคาโรงรถ ซึ่งอาจเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้ที่ฆ่าตัวตาย แม้การสอบสวนของตำรวจในเบื้องต้นระบุว่า กระสุนเข้าที่ศีรษะเพียงนัดเดียว ลักษณะของวิถีกระสุนยิงจากด้านในรถออกมา ประเด็นที่ต้องตรวจสอบอีกเรื่องก็คือ ปืนที่พบใช่ของนายสุทธิหรือไม่ และที่สำคัญคราบเขม่าดินปืน ที่หากเป็นกรณียิงตัวตายต้องพบที่มือ และจุดที่ยิงเข้า ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน แต่ตำรวจที่ตรวจพิสูจน์อ้างว่า เจอที่มือ แต่ญาติและเพื่อนๆ ยังคงติดใจ
สำหรับกำหนดการผ่าพิสูจน์ทีม น.พ.สุรณรงค์ ศรีสุวรรณ แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะผ่าพิสูจน์ในวันพรุ่งนี้ช่วงเช้า โดยญาติและกลุ่มเพื่อนจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย ขณะที่ญาติได้กำหนดพิธีฌาปนกิจ นายสุทธิในวันพุธนี้
นายสุทธิ เป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่้งแวดล้อมหลายปี เป็นแกนนำคนสำคัญต่อสู้ประเด็นผลกระทบของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จนเป็นที่รู้จัก และทำให้นายสุทธิมีความขัดแย้งกับนักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งที่ทำให้ชื่อของนายสุทธิ กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ เมื่อเป็นแกนนำ นำมวลชน จ.ระยอง และภาคตะวันออก ให้คัดค้านโรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้าถ่านหิน กรณีผลกระทบของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
สำหรับกำหนดการผ่าพิสูจน์ทีม น.พ.สุรณรงค์ ศรีสุวรรณ แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะผ่าพิสูจน์ในวันพรุ่งนี้ช่วงเช้า โดยญาติและกลุ่มเพื่อนจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย ขณะที่ญาติได้กำหนดพิธีฌาปนกิจ นายสุทธิในวันพุธนี้
นายสุทธิ เป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่้งแวดล้อมหลายปี เป็นแกนนำคนสำคัญต่อสู้ประเด็นผลกระทบของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จนเป็นที่รู้จัก และทำให้นายสุทธิมีความขัดแย้งกับนักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งที่ทำให้ชื่อของนายสุทธิ กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ เมื่อเป็นแกนนำ นำมวลชน จ.ระยอง และภาคตะวันออก ให้คัดค้านโรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้าถ่านหิน กรณีผลกระทบของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
