นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงการประชุมคณะทำงานศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะด้านกฎหมาย ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยมี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นักวิชาการ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือเพื่อแก้ข้อกฎหมายที่จะทำให้การบังคับใช้ หรือการดูแลปัญหาการค้ามนุษย์ สามารถเกิดผลสัมฤทธิ์ในเชิงกฎหมาย ซึ่งกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551
ทั้งนี้ จากการทบทวนข้อกฎหมายดังกล่าวในที่ประชุม พบว่า กฎหมายเดิมไม่มีบทบังคับเรื่องการเอาผิดผู้ประกอบการ และสถานประกอบการ ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ กรณีไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขที่ชัดเจนว่าหากไม่ปรากฏข้อมูลชัดว่า ร่วมกระทำผิด ก็ไม่สามารถเอาผิดดำเนินคดีได้ ซึ่งที่ประชุมเสนอให้เพิ่มกฎหมายเอาผิดผู้ประกอบการและสถานประกอบการ ที่กระทำความความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ถูกดำเนินคดีและถูกลงโทษทางปกครอง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือเรื่องการเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ อาทิ กรณีผู้กระทำผิด แม้ไม่มีเจตนาจะให้ผู้เสียหายพิการตลอดชีวิต แต่ผลของการกระทำกลับทำให้ผู้เสียหายพิการตลอดชีวิต หรือเสียชีวิต ก็จะถูกลงโทษมากกว่า หรือมีอัตราโทษที่สูงกว่า เพื่อให้ผู้ที่กระทำผิดเกรงกลัวกฎหมาย บทลงโทษมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางคณะทำงานจะนำผลการหารือในที่ประชุมครั้งนี้ ไปเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณา ซึ่งหาก คสช.เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ก็ให้ประกาศเป็นคำสั่ง คสช. แต่หากเห็นว่าสามารถแก้กฎหมายได้โดยผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะเสนอตามข้อแนะนำต่อไป
ทั้งนี้ จากการทบทวนข้อกฎหมายดังกล่าวในที่ประชุม พบว่า กฎหมายเดิมไม่มีบทบังคับเรื่องการเอาผิดผู้ประกอบการ และสถานประกอบการ ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ กรณีไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขที่ชัดเจนว่าหากไม่ปรากฏข้อมูลชัดว่า ร่วมกระทำผิด ก็ไม่สามารถเอาผิดดำเนินคดีได้ ซึ่งที่ประชุมเสนอให้เพิ่มกฎหมายเอาผิดผู้ประกอบการและสถานประกอบการ ที่กระทำความความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ถูกดำเนินคดีและถูกลงโทษทางปกครอง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือเรื่องการเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ อาทิ กรณีผู้กระทำผิด แม้ไม่มีเจตนาจะให้ผู้เสียหายพิการตลอดชีวิต แต่ผลของการกระทำกลับทำให้ผู้เสียหายพิการตลอดชีวิต หรือเสียชีวิต ก็จะถูกลงโทษมากกว่า หรือมีอัตราโทษที่สูงกว่า เพื่อให้ผู้ที่กระทำผิดเกรงกลัวกฎหมาย บทลงโทษมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางคณะทำงานจะนำผลการหารือในที่ประชุมครั้งนี้ ไปเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณา ซึ่งหาก คสช.เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ก็ให้ประกาศเป็นคำสั่ง คสช. แต่หากเห็นว่าสามารถแก้กฎหมายได้โดยผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะเสนอตามข้อแนะนำต่อไป
