นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยภายหลังเข้าพบ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ได้เข้าให้ข้อมูลต่อฝ่ายกฎหมายของ คสช. เกี่ยวกับการป้องกันการฟอกเงิน ว่า กกต.มี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 53 (1) (2) ที่ระบุห้ามไม่ให้ผู้สมัครจัดทำให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้ เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ที่อาจคำนวณเป็นเงินได้แก่บุคคลใด เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้ตนเองหรือผู้สมัคร และในวรรคท้ายของมาตราได้ระบุว่าหากพบความผิดถึงที่สุด ให้อำนาจ กกต.ส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการ
ส่วนกรณีที่ กกต.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแก่ ส.ส.หรือ ส.ว. แล้วศาลพิจารณาคดีถึงที่สุดแล้ว กกต.ก็สามารถส่งเรื่องให้ ปปง.พิจารณาได้เช่นกัน หากดำเนินคดีอาญาถึงที่สุดทรัพย์สินจะต้องตกเป็นของแผ่นดิน เบื้องต้นได้รายงานให้ คสช.รับทราบว่า ทาง กกต.มีกฎหมายที่จะควบคุมการฟอกเงินอยู่แล้ว แต่จะต้องมีการปรับปรุงในส่วนของแนวทางปฏิบัติให้เข้มข้นขึ้น
ส่วนกรณีที่ กกต.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแก่ ส.ส.หรือ ส.ว. แล้วศาลพิจารณาคดีถึงที่สุดแล้ว กกต.ก็สามารถส่งเรื่องให้ ปปง.พิจารณาได้เช่นกัน หากดำเนินคดีอาญาถึงที่สุดทรัพย์สินจะต้องตกเป็นของแผ่นดิน เบื้องต้นได้รายงานให้ คสช.รับทราบว่า ทาง กกต.มีกฎหมายที่จะควบคุมการฟอกเงินอยู่แล้ว แต่จะต้องมีการปรับปรุงในส่วนของแนวทางปฏิบัติให้เข้มข้นขึ้น