นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ โดยในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์เอ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) หรือ ไข้หวัดใหญ่ 2009 สายพันธุ์ เอช 3 เอ็น 2 (H3N2) และสายพันธุ์บี ฟรี แก่ประชาชน 4 กลุ่มที่มีความเสี่ยง เมื่อป่วยแล้วจะมีภาวะแทรกซ้อนอันตรายสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ได้แก่ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี และผู้ป่วยโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ โรคเบาหวาน หลอดเลือดสมอง ไตวาย หอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ และโรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างได้รับเคมีบำบัด รวมทั้งหมด 3 ล้านคน และฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ 4 แสนคน รวม 3.4 ล้านคน โดยปีนี้เริ่มบริการฉีดเร็วกว่าปีที่ผ่านมา เพื่อให้มีผลในการป้องกันการป่วยก่อนช่วงที่จะมีการระบาด เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 8 กรกฎาคม 2557 ฉีดไปแล้วรวม 1,622,866 ราย
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้กำชับให้ทุกจังหวัดเร่งรณรงค์ และติดตามประชาชนกลุ่มเสี่ยงและบุคลากรทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอีกจำนวน 1,777,134 คน ให้ไปรับการฉีดวัคซีนให้ครบทุกคนตามที่กำหนด คือ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ รวมทั้งให้ความรู้ประชาชนเพื่อร่วมกันป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ที่มีประชาชนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก ขอให้ล้างมือบ่อยๆ หากเป็นไข้หวัด ขอให้คาดหน้ากากป้องกันการแพร่กระจายเชื้อตลอดเวลา เนื่องจากในปีนี้จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ มีแนวโน้มสูงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้กำชับให้ทุกจังหวัดเร่งรณรงค์ และติดตามประชาชนกลุ่มเสี่ยงและบุคลากรทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอีกจำนวน 1,777,134 คน ให้ไปรับการฉีดวัคซีนให้ครบทุกคนตามที่กำหนด คือ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ รวมทั้งให้ความรู้ประชาชนเพื่อร่วมกันป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ที่มีประชาชนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก ขอให้ล้างมือบ่อยๆ หากเป็นไข้หวัด ขอให้คาดหน้ากากป้องกันการแพร่กระจายเชื้อตลอดเวลา เนื่องจากในปีนี้จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ มีแนวโน้มสูงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา