นายประภาศ บุญยินดี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายให้จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป กระทรวงมหาดไทยได้ให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปขึ้นในแต่ละระดับ พร้อมทั้งได้กำหนดแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ฯ ภายใต้มาตรการ "สลายแกนนำ สร้างบรรยากาศความเชื่อมั่น สร้างพันธะสัญญาในการคืนความสงบร่วมกัน และรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย" เพื่อขับเคลื่อนโยบายดังกล่าว
นอกจากนี้ เพื่อให้การปฏิบัติงานของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ในทุกระดับ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ภายใต้กรอบการดำเนินงานเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดเร่งรัดการดำเนินการจัดเวทีเสวนาเพื่อรวบรวมข้อมูลการปฏิรูป โดยให้ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัด (ศปป.จังหวัด) เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการจัดเสวนา ร่วมกับ ศปป.กอ.รมน ภาค 1-4 และกองกำลังรักษาความสงบกองทัพภาค 1-4 โดยการเชิญบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเข้าร่วมเสวนา และแบ่งกลุ่มเสวนาเป็นกลุ่มๆ เช่น กลุ่มภาคประชาชน กลุ่มภาคข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ กลุ่มภาคแกนนำทางการเมือง กลุ่มภาคธุรกิจเอกชน กลุ่มภาคสังคม และกลุ่มอื่นๆ เป็นต้น เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนและมีกลุ่มเสวนาครบทุกภาคส่วน พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ ศปป.จังหวัด พิจารณาเชิญกลุ่มผู้เข้าร่วมเสวนาให้ครบถ้วนทุกกลุ่มทุกฝ่าย โดยเฉพาะแกนนำทางการเมือง เพื่อร่วมกันเสนอความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ รวมทั้งสภาพปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้นในระดับพื้นที่
ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มเสวนาดังกล่าวเป็นผู้ร่วมขับเคลื่อนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ เพื่อให้การปฏิบัติงานของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ในทุกระดับ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ภายใต้กรอบการดำเนินงานเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดเร่งรัดการดำเนินการจัดเวทีเสวนาเพื่อรวบรวมข้อมูลการปฏิรูป โดยให้ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัด (ศปป.จังหวัด) เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการจัดเสวนา ร่วมกับ ศปป.กอ.รมน ภาค 1-4 และกองกำลังรักษาความสงบกองทัพภาค 1-4 โดยการเชิญบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเข้าร่วมเสวนา และแบ่งกลุ่มเสวนาเป็นกลุ่มๆ เช่น กลุ่มภาคประชาชน กลุ่มภาคข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ กลุ่มภาคแกนนำทางการเมือง กลุ่มภาคธุรกิจเอกชน กลุ่มภาคสังคม และกลุ่มอื่นๆ เป็นต้น เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนและมีกลุ่มเสวนาครบทุกภาคส่วน พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ ศปป.จังหวัด พิจารณาเชิญกลุ่มผู้เข้าร่วมเสวนาให้ครบถ้วนทุกกลุ่มทุกฝ่าย โดยเฉพาะแกนนำทางการเมือง เพื่อร่วมกันเสนอความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ รวมทั้งสภาพปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้นในระดับพื้นที่
ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มเสวนาดังกล่าวเป็นผู้ร่วมขับเคลื่อนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปอย่างแท้จริง